Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Quote

100 ข้อคิด จาก Larry Page และ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google | Blue O’Clock Podcast EP. 43

Larry Page และ Sergey Brin คือผู้ร่วมก่อตั้ง Google ผู้ให้บริการการค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนี่ คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากพวกเขา โดย 50 ข้อแรกจะเป็นข้อคิดจาก Larry Page และ 50 ข้อหลังจะเป็นข้อคิดจาก Sergey Brin

  1. ถ้าหากคุณยังไม่เคยได้ลองทำอะไรที่มันดูบ้า ๆ ดูบ้าง นั่นแสดงว่า คุณน่าจะกำลังทำอะไรผิดพลาดอยู่
  2. ผู้คนคิดว่าการโฟกัส หมายถึงการ say yes ในสิ่งต่าง ๆ ที่คุณต้องโฟกัส แต่นั่นมันไม่ใช่ความหมายของมันเลย เพราะการโฟกัสมันหมายถึงการที่คุณจะต้องปฏิเสธไอเดียดี ๆ นับร้อยอย่าง เพื่อทำไม่กี่อย่าง
  3. จงส่งมอบให้มากกว่าความคาดหวัง
  4. ถ้าคุณกำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่ นั่นคือคุณกำลังทำในสิ่งที่สำคัญ คุณจะรู้สึกตื่นเต้นในทุก ๆ เช้าที่ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อไปเปลี่ยนแปลงโลก
  5. คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีพนักงานเป็นร้อยในบริษัทเพื่อพัฒนาไอเดียนั้น ๆ เสมอไป
  6. ตัวของคุณไม่เคยสูญเสียความฝัน แต่ในหลาย ๆ ครั้งมันลดสถานะไปเป็นงานอดิเรกแทน
  7. มันยากมาก ๆ ที่จะเกิดการล้มเหลวโดยที่ไม่ได้อะไรเลย หากคุณตั้งเป้าไว้ให้สูงมากพอ ความหมายก็คือ ถ้าเป้าคุณสูง ต่อให้ล้มเหลว ก็อาจจะไปได้ไกลกว่าการประสบความสำเร็จกับเป้าเล็ก ๆ ซะอีก
  8. ทุกสิ่งที่คุณจิตนาการเอาไว้นั้น สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ คุณแค่ต้องจินตนาการถึงมัน แล้วลงมือทำมันซะ
  9. คุณสามารถอยู่ในโหมดจริงจังได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดสูท
  10. การมองโลกในแง่ดีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ บางครั้งคุณก็อาจจะต้องแกล้งโง่บ้างในบางครั้งที่ทำการตั้งเป้าหมาย และให้คุณพยายามทำในสิ่งที่คนอื่น ๆ เพิกเฉย และไม่ค่อยมีใครทำมัน
  11. เมื่อคุณปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ พวกเขาก็มักจะตอบแทนกลับคืนมาด้วยความเมตตากรุณา
  12. พวกเราเชื่อเสมอมาว่า มันเป็นไปได้ที่จะทำเงินโดยปราศจากความชั่วร้าย แต่คุณก็สามารถทำเงินจากการทำชั่วได้เช่นกัน
  13. โดยพื้นฐานแล้ว หน้าที่ของพวกเราก็คือการจัดระเบียบข้อมูลของโลกและทำให้ข้อมูลทั้งหมดดังกล่าว สามารถเข้าถึงได้ง่าย และสามารถใช้ได้ในระดับสากล นั่นคือสิ่งที่ Google เป็น
  14. ถ้าสิ่งที่เราทำถูกขับเคลื่อนด้วยเงินแล้วล่ะก็ พวกเราคงขายบริษัทไปนานแล้ว และชีวิตก็คงลงเอยด้วยการนอนชิล ๆ ที่ริมชายหาด
  15. พวกเราควรสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่ยังไม่มีอยู่จริง ความหมายก็คือ ให้เราพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนบนโลกใบนี้
  16. โดยพื้นฐานแล้วไม่มีบริษัทใดที่ตัดสินใจช้าแล้วได้ดี เพราะมีแต่บริษัทที่ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเท่านั้นจึงจะได้ดี ความหมายก็คือ ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น ความเร็วในการตัดสินใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการตัดสินใจได้เร็ว ก็จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์จากโอกาสก่อนที่มันจะหายไป
  17. บางที การที่คุณรู้สึกเหมือนตัวเองเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างเชื่องช้าราวกับหนอนที่ค่อย ๆ กระดึ๊บ ๆ ไปเพื่อฝ่าดงพายุนั้น คุณอาจจะกำลังมาถูกทางแล้ว
  18. สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่า ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งคุณไม่สามารถมีความเป็นส่วนตัวได้ หากไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย
  19. Google จะบรรลุภารกิจได้ก็ต่อเมื่อระบบการค้นหามีระบบ AI หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แล้วเท่านั้น
  20. ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าบริษัทนั้นเป็นสิ่งชั่วร้าย เพราะพวกเขามักได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี และผมคิดว่า พวกเขาคิดถูกแล้ว
  21. จงอย่าเป็นคนชั่วร้าย เพราะผู้คนส่วนใหญ่ชอบคนดีมากกว่า
  22. เทคโนโลยีควรทำงานอย่างหนัก เพื่อให้คุณสามารถมีเวลาไปใช้ชีวิตได้มากขึ้น ทำในสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น เพราะมนุษย์เรานั้นคือสิ่งมีชีวิตในกลุ่ม 1% ที่สามารถทำอะไรใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้
  23. ทุกคนที่มีแนวคิดแปลกแหวกแนว ปฏิวัติวงการ เกือบทั้งหมดนั้น ก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ในช่วงเริ่มแรกใคร ๆ ก็หาว่าพวกเขาบ้ากันทั้งนั้น
  24. บริษัทส่วนใหญ่มักจะไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อวันเวลาผ่านไป เพราะพวกเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับอนาคตได้
  25. สาเหตุที่เราเลือกที่จะสร้าง Google ขึ้นมานั้นก็เป็นเพราะ พวกเราอยากจะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต และอีกอย่างนึงก็คือ มันฟังแล้วดูเท่จริง ๆ
  26. คุณรู้ไหมว่า บางครั้งผมก็สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะความฝัน และถ้าหากข้างกายคุณไม่มีดินสอกับกระดาษเอาไว้จดความฝันเมื่อสักครู่แล้วนั้น พอรุ่งเช้าขึ้นมา คุณอาจจะลืมความฝันนั้นไปแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นทันทีที่คุณตื่นจากความฝัน ให้รีบจดมันเอาไว้ในทันที
  27. งานของผมในฐานะที่เป็นผู้นำ Google ผมต้องทำให้มั่นใจว่า ทุกคนในบริษัทจะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ เพื่อทำในสิ่งที่มีความหมายต่อโลกใบนี้และมีส่วนสร้างประโยชน์อย่างมากมายให้แก่สังคมมนุษย์
  28. คุณจำเป็นที่จะต้องทำสิ่ง ๆ หนึ่งให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งอื่น ๆ ถัดไป
  29. หากเราไม่ได้รับความไว้วางใจ ความเชื่อใจ แล้วล่ะก็ ธุรกิจก็จะไม่เกิดขึ้น
  30. โดยพื้นฐานแล้ว search engine จะเป็นเครื่องมือค้นหาที่ดีที่สุดก็ต่อเมื่อมันสามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่บนโลกใบนี้ได้ทั้งหมด แล้วมันจะให้คำตอบแก่คุณที่ต้องถูกต้องอยู่เสมอ ซึ่งเรายังห่างไกลจากสิ่งนั้นอยู่มาก
  31. ณ ปัจจุบัน พวกเราส่วนใหญ่มักจะพกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องติดตัวอยู่ตลอดเวลาในทุก ๆ วัน ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปในทันทีเมื่อไม่มีสมาร์ทโฟน จึงไม่แปลกที่จะมีการพิมพ์ข้อความค้นหาบนมือถือมากยิ่งขึ้น และการค้าขายบนมือถือทั่วโลกก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
  32. ผู้คนที่อดอยากบนโลกใบนี้นั้น ไม่ใช่เกิดจากการที่โลกของเรามีอาหารไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะพวกเราจัดการได้ไม่ดีพอ ซึ่งคอมพิวเตอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย นอกจากเรื่องของอาหาร
  33. หากธุรกิจของคุณกำลังหยุดนิ่ง กราฟการเติบโตราบเรียบ นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณมีแนวโน้มที่จะกำลังมีปัญหา
  34. การประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ คุณจะต้องสามารถผลักดันนวัตกรรมดังกล่าวให้เป็นธุรกิจ ให้เป็นการค้าให้ได้ แล้วส่งนวัตกรรมดังกล่าวให้ไปถึงมือผู้คน
  35. คุณอาจจะกำลังคิดว่า การใช้ Google นั้นมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเอามาก ๆ แต่ในขณะที่ผมกลับมองว่ามันยังคงห่วยแตกอยู่
  36. หากคุณต้องการขี้เกียจทำงาน คุณจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง ใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม แล้วจากนั้นคุณก็สามารถทำงานเพียงน้อยนิด แต่ได้ประสิทธิผลสูงได้
  37. ในปี 1995 ที่ผมจบดอกเตอร์นั้น ผมสนใจในเรื่องของการทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อที่จะได้ช่วยเซฟชีวิตผู้คนได้เป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่มีสาขาวิชาใดที่สอนเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย ความหมายก็คือ คุณจำเป็นที่จะต้องมีความรู้หลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, วิศวกรรมศาสตร์, machine learning และอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อที่จะสามารถสร้างรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  38. เราต้องการสร้างเทคโนโลยีที่ทุกคนชอบใช้และส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อทุกคน และเราต้องการสร้างบริการและเทคโนโลยีที่สวยงามจนผู้คนอยากใช้มันอย่างน้อยวันละสองครั้ง เฉกเช่นเดียวกับการใช้แปรงสีฟัน ซึ่งมีน้อยอย่างมากที่จะทำให้ผู้คนยอมใช้วันละสองครั้งได้แบบนั้น
  39. จงอย่าได้ปฏิบัติต่อลูกค้าราวกับว่าพวกเขาเป็นอาชญากร ควรปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพ
  40. มันไม่เกี่ยวหรอกว่า คุณทำงานมาแล้วกี่ปี แต่มันสำคัญตรงที่ว่า คุณใช้เวลากับการทำงานจริง ๆ ไปมากแค่ไหนต่างหาก
  41. อินเตอร์เน็ตคือสิ่งที่มนุษย์เราสร้างมันขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก็ยังไม่เข้าใจมันจริง ๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ในตอนแรก แต่มันกลับกลายเป็นการทดลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เราเคยมีมา
  42. ไอเดีย คือสิ่งที่มีค่าน้อยที่สุด ในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา ขอเพียงแค่มันเป็นไอเดียที่ถูกต้องและมีรสนิยมสักหน่อยก็เพียงพอ แต่สิ่งที่ยากจริง ๆ ก็คือ การทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ และสามารถส่งไปถึงยังผู้คนได้นั้นต่างหาก คือกุญแจสำคัญ
  43. มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเอามาก ๆ ที่คุณสามารถเอาชนะบริษัทคู่แข่งที่ทำในสิ่งเดียวกันได้
  44. การตั้งเป้าหมายไปยังดวงดาวที่ห่างไกล ที่แม้ว่าคุณอาจจะไปไม่ถึงมัน แต่อย่างน้อยคุณก็จะไปถึงดวงจันทร์
  45. จงมองข้ามในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แล้วคุณจะเห็นในสิ่งที่สามารถเป็นไปได้
  46. บริษัทส่วนใหญ่คิดว่า การเข้าร่วมแข่งขันกับคู่แข่งนั้นดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของพวกเขา แต่ผมกลับคิดว่า มันจะดีกว่ามาก หากเราโฟกัสที่ธุรกิจตัวเองให้ขึ้นไปบนฟ้าให้สูงมาก ๆ ทิ้งห่างจากบริษัทอื่น ๆ จนคุณไม่จำเป็นที่จะต้องหันหลังไปมองคู่แข่งของคุณซะด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นคือการที่คุณพยายามทำให้ตัวเองนั้น มองหาโอกาสและสิ่งที่เป็นไปได้และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น
  47. ความเป็นเลิศนั้นคือสิ่งสำคัญ ซึ่งผมพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มความเร็วในการทดลองทำในสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้มีการพัฒาผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา และโฟกัสในการเดิมพันในการพยายามสร้างสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่บนโลกใบนี้
  48. วิธีเดียวที่คุณจะประสบความสำเร็จได้ก็คือต้องผ่านการล้มเหลวให้มากพอเสียก่อน
  49. การมีกฎเกณฑ์มากจนเกินไปนั้น มันจะมาขัดขวางการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
  50. Sergey Brin คือผู้ร่วมก่อตั้งที่น่าทึ่งเอามาก ๆ เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์, คณิตศาสตร์ และการค้นคว้าวิจัย ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เขาได้ดำดิ่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะก็ เขาจะสามารถเข้าถึงและเข้าใจรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งก่อให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ตามมาอีกมากมาย
  51. เราต้องการให้ Google เป็นเสมือนสมองซีกที่สามของคุณ
  52. ส่วนตัวแล้ว ผมไม่มีความฝันว่าจะต้องทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในเชิงเศรษฐศาสตร์เลย ผมคิดว่าคุณควรทำด้วยความสนุกและไม่คาดหวังกับผลลัพธ์มากจนเกินไป
  53. ผมต้องการที่จะเห็นทุก ๆ คน ที่มีความฝัน สามารถบรรลุความฝันของพวกเขาได้ และนั่นคือสิ่งที่องค์กรนี้ทำอยู่
  54. การแก้ไขปัญหาขนาดใหญ่นั้น แก้ไขได้ง่ายกว่าการแก้ไขปัญหาขนาดเล็ก
  55. ผมรู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่นั้นมีความกังวลมากจนเกินไป ซึ่งผมไม่เคยกังวลเลย ซึ่งหลายคนอาจมองเห็นภาพภูเขาขนาดใหญ่ตั้งขวางทางอยู่ตรงหน้า แต่ผมกลับเห็นมันเป็นแค่เพียงเนินเขาเล็ก ๆ ลูกเดียวที่ต้องปีนข้ามมันไปก็เท่านั้นเอง
  56. ในสังคมของเรา ท่ามาตรฐานโดยทั่วไปก็คือ การที่ไปโรงเรียน เรียนจบแล้วก็ได้งานดี ๆ ทำ ขยันตั้งใจทำงาน แล้วก็เกษียณเพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่รัก คำถามก็คือ ทำไมไม่ทำในสิ่งที่รักตั้งแต่แรกเลยล่ะ?
  57. เห็นได้ชัดว่า ใคร ๆ ก็อยากประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น แต่ผมอยากให้ลองมองย้อนกลับไปที่เรื่องที่สำคัญก่อนอื่นเลยว่า อย่างแรกคุณจะต้องมีนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยม มีความน่าเชื่อถือสูงและมีจริยธรรมที่สูงเสียก่อน แล้วในท้ายที่สุดก็ค่อยสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ได้
  58. วิธีการจัดอันดับผลการค้นหาของ Google ก็คือ เราจะทำการแปลงเว็บไซต์ทั้งเว็บให้เป็นสมการทางคณิตศาสตร์ขนาดมหึมา โดยมีตัวแปรหลายร้อยล้านตัวแปร และ Google ก็ทำการแก้ไขสมการดังกล่าว เพื่อนำไปประมวลผลในการแสดงผลการค้นหาเพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ในหน้าแรกของ Google
  59. เราพยายามให้คำจำกัดความของคำว่าการเป็นคนดี มีจริยธรรม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือจะสรุปอย่างง่าย ๆ ด้วยคำเดียวก็ได้เช่นกัน นั่นก็คือ อย่าเป็นคนชั่ว แค่นั้นเอง
  60. คุณจะเห็นได้ว่า ในช่วงไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านของมนุษย์เรานั้น สามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความคิดและสร้างสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น และผมก็หวังว่าจะเห็นแนวโน้มดังกล่าวดำเนินแบบนี้ต่อไป
  61. เมื่อผมโตขึ้น ผมรู้อยู่เสมอว่า ผมจะต้องสอบได้คะแนนสูงสุดในวิชาคณิตศาสตร์อย่างแน่นอน และนั่นมันทำให้ผมมีความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมาก
  62. พวกเราต้องการมีคนที่ยอดเยี่ยมมาทำงานกับเรา
  63. ก่อนหน้าที่จะมี Google นั้น ผมไม่คิดว่าผู้คนทุ่มเทมากพอจะจัดอันดับผลลัพธ์ของผลการค้นหา เพราะผมเล็งเห็นว่า การจัดอันดับผลการค้นหา 10 อันดับแรกสุดนั้น มีประโยชน์มากกว่าอีกนับพันอันดับที่เหลือ
  64. ธุรกิจเราไม่สามารถอยู่รอดได้ หากผู้คนไม่มีความเชื่อใจในตัวพวกเรา
  65. บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนขี้เกียจ ผมจึงลงเอยด้วยการใช้เวลาเป็นอย่างมากไปกับการทำบางสิ่งเพื่อให้ผมสามารถขี้เกียจได้มากขึ้น นั่นก็คือการสร้าง Google ที่เป็นสุดยอด serch engine ขึ้นมาเพราะเวลาที่ผมขี้เกียจค้นหาเรื่องอะไร ผมก็แค่พิมพ์ค้นหาบน Google
  66. ถ้าสมองของคุณสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดบนโลกใบนี้ได้โดยตรงหรือมีสมองกลที่ทำหน้าที่แบบนั้นแทนคุณได้ ชีวิตคุณก็น่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
  67. ในอนาคต ผมคิดว่า Google น่ามีประโยชน์เหมือนกับในภาพยนตร์ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ล้ำ ๆ แต่ผมก็หวังว่า มันจะไม่ทำร้ายมนุษย์
  68. จริง ๆ แล้ว Google จะต้องสะกดว่า G-O-O-G-O-L ซึ่งในทางคณิตศาสตร์ความหมายของมันก็คือ จำนวนเลข 1 แล้วตามด้วยศูนย์ข้างหลังอีก 100 ตัว ซึ่งพยายามจะสื่อความหมายว่า เป็นจำนวนข้อมูลอย่างมหาศาล แต่เราดันลืมตรวจเช็คการสะกดคำ มันก็เลยกลายเป็นคำอย่างที่ทุกคนเห็นในวันนี้ มันคือคำที่สะกดผิดนั่นเอง
  69. เนื่องจากโลกของเรามีวิวัฒนาการที่พัฒนาด้านฮาร์ดแวร์กับซอร์ฟแวร์เป็นอย่างมาก คุณจึงสามารถใช้พลังทวีได้ในเกือบจะทุกสิ่ง ทำให้ทุกคนที่มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้นั้น มีเครื่องมือที่ทรงพลังเอาไว้อยู่ในมืออย่างเท่าทียมกัน เพราะคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ก็สามารถมีสิทธิมีเสียงบนโลกออนไลน์ขึ้นมาได้
  70. มนุษยเรานั้น พยายามทำในสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในยุคนี้ คนที่ประสบความสำเร็จจะต้องเป็นคนที่เก่งกาจกว่าคนรุ่นก่อนเอามาก ๆ
  71. หากสิ่งที่เราทำอยู่ คนอื่น ๆ ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์แล้วล่ะก็ สิ่งนั้นก็อาจจะยังเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้ไม่มากพอ
  72. บางคนอาจบอกว่า Google คือพระเจ้า หรือบางคนก็อาจบอกว่า Google คือซาตาน เพราะพวกเขาคิดว่า Google มีประสิทธิสูงมากจนเกินไป แต่เราไม่เหมือนกับบริษัทอื่น ๆ เพราะเพียงแค่คุณคลิกบน Google แค่คลิกเดียว คุณก็สามารถไป serch engine เจ้าอื่นได้ในทันที
  73. สำหรับผมแล้ว การสร้าง Google ขึ้นมา มันคือการรักษาประวัติศาสตร์ของโลกและทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
  74. หากมีการสนทนาใด ๆ ที่เกี่ยวกับนวัตกรรม ผมจะเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูงที่สุดที่สามารถเป็นไปได้เอาไว้ก่อนเลย
  75. เราจะสร้างเครื่องจักรกลที่สามารถคิดเหตุและผล และทำในสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าที่เราสามารถทำได้
  76. เราเชื่อว่า พวกเราสามารถแสดงผลการค้นหาบน Google ได้ดียิ่งกว่าเดิมได้ จากไอเดียง่าย ๆ พื้นฐานที่ว่า เว็บไหนทำได้ดีมีคุณภาพสูง นั่นก็คือหน้าเว็บดังกล่าวมีความสำคัญมากกว่าหน้าเว็บอื่น ๆ ก็ควรได้ขึ้นแสดงบนผลการค้นหาเป็นอันดับต้น ๆ
  77. สุดยอด search engine คือเครื่องมือที่จะแสดงผลการค้นหา ที่เข้าใจความต้องการอย่างถ่องแท้ของผู้พิมพ์ว่าพวกเขาหมายถึงอะไร และจะให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการคืนกลับมาที่ตรงใจมากที่สุด
  78. มันง่ายกว่ามากในการที่จะก้าวไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ด้วยความทะเยอทะยานที่ยิ่งยวด เนื่องจากไม่มีใครกล้าบ้าพอที่จะทำมัน นั่นมันจึงทำให้คุณมีคู่แข่งที่น้อยเอามาก ๆ
  79. จริง ๆ แล้ว ผู้ใช้งานบน Google คือผู้ที่ช่วยทำการตลาดให้กับพวกเรา เพราะมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากที่บอกต่อและชวนเพื่อน ๆ ของพวกเขามาใช้งานบน search engine ของพวกเรา
  80. น่าเสียดายที่หนังสือส่วนใหญ่ เราไม่สามารถเข้าถึงมันได้ ซึ่งทางเดียวที่คุณจะเข้าถึงหนังสือเหล่านั้นก็คือ การเก็บกระเป๋าขึ้นเครื่อง แล้วบินไปยังหอสมุดในแต่ละประเทศ แล้วก็ลุ้นเอาว่าในกองหนังสือเหล่านั้น จะมีเล่มที่คุณกำลังหาอยู่หรือไม่
  81. ผมหวังว่าในอนาคต จะมีบริการหลายร้อยเจ้า ที่ผมสามารถเข้าถึงข้อมูลในหนังสือได้อย่างง่ายดาย เพราะมันจะช่วยทำให้ผมประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก และมันจะทำให้ Google ประหยัดเวลาในการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ได้เป็นอย่างมากด้วย
  82. ในช่วงซัมเมอร์ในปี 1998 ในระหว่างที่พวกเรากำลังพัฒนาระบบ search engine ที่มหาวิทยาลัยอยู่นั้น พวกเราตะเกียกตะกายไปทั่วเพื่อที่จะขโมยเครื่องคอมพิวเตอร์จากคณะอื่น ๆ เพื่อมาใช้เป็นทรัพยากรในงานวิจัยของพวกเรา
  83. จากเดิมที่บริษัทเคยมีทีมงานกันแค่ 10 คน แล้วเติบโตไปเป็น 100 คนนั้น คุณจะไม่มีทางรู้จักทุกคนที่อยู่ในบริษัทได้ แต่ก็เพราะสาเหตุนั้น จะทำให้บริษัทคุณเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และขยายตัวอย่างรวดเร็ว
  84. คุณคงเคยได้ยินประโยคในทำนองที่ว่า “เงินซื้อความสุขไม่ได้หรอก!” และผมก็คิดเสมอมาว่าการมีเงินเยอะ ๆ นั้น ก็สามารถซื้อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แต่จริง ๆ แล้วมันซื้อความสุขได้เยอะเลย
  85. เมื่อเงินทุนนั้นหาง่ายจนเกินไป มันจะมีเสียงรบกวนที่จะมาบดบังสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการที่แท้จริงที่มันควรจะเป็น
  86. เห็นได้ชัดว่าโลกของเรายังมีพื้นที่ว่างให้สำหรับการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย มันมีโอกาสรออยู่อีกมากมาย มันไม่มีทางตันหรอก
  87. มีนักวิทยาการคอมพิวเตอร์น้อยเกินไปที่ตระหนักถึงความท้าทายในด้านของชีววิทยาและสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเรา เพราะในทุกวันนี้เราสามารถจัดเก็บข้อมูลเรื่องดังกล่าวในค่าใช้จ่ายที่น้อยเอามาก ๆ ในขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้เลย
  88. พวกเราต้องรับมือกับข้อมูลที่หลากหลายอุตสาหกรรมเอามาก ๆ ซึ่งก็จะมีใครบางคนที่จะหัวเสียอยู่ตลอดเวลาที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรไปก็ตามที แต่พวกเราก็ต้องตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันก็จะเกิดการโต้เถียงกันไม่จบไม่สิ้นสักที
  89. โดยปกติแล้ว ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพนั้นมักจะมีกฎการควบคุมข้อมูลอย่างเข้มงวดอยู่ ซึ่งสำหรับธุรกิจด้านรวบรวมข้อมูลแล้วนั้นมันเป็นอะไรที่ไม่เวิร์คเอาซะเลย ซึ่งผมคิดว่าคงไม่ได้ใช้เวลากับอุตสาหกรรมด้านนี้สักเท่าไหร่นัก
  90. ตอนนี้ พวกเราไม่ได้มีแผนการที่จะยึดครองโลกใบนี้ ความหมายก็คือ Sergey Brin เขาตั้งใจให้ Google เป็นผลิตภัณฑ์จัดหาและบริการแสดงผลการค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ที่จะช่วยพัฒนาให้ชีวิตของผู้คนดียิ่งขึ้น ไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อที่จะครอบงำโลกใบนี้
  91. ก้าวต่อ ๆ ไปของพวกเรา ผมหวังว่า พวกเราจะยังคงใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยให้ชีวิตและการทำงานของผู้คนดียิ่งขึ้น
  92. ผมต้องการปูทางสร้างแนวคิดแบบใหม่เกี่ยวกับด้านนวัตกรรม ที่ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของความก้าวหน้าทางเทคนิค แต่เป็นประเด็นด้านทางวัฒนธรรม สังคม และการเมืองมากยิ่งขึ้น
  93. สิ่งที่ผมกังวลคือเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ที่ ณ จุด ๆ หนึ่ง มันจะมีระดับปัญญาที่เหนือกว่ามนุษย์ และอยู่เหนือเกินความเข้าใจของมนุษย์ ซึ่งอาจนำมาซึ่งความหายนะต่อมนุษย์เราได้ หากเราไม่มีมาตรการควบคุมมัน
  94. ความบังเอิญ คือองค์ประกอบหนึ่ง ที่นำพาไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
  95. แท้จริงแล้ว ผู้คนไม่ได้ต้องการค้นหาข้อมูล แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการค้นหาก็คือคำตอบ
  96. อินเตอร์เน็ตเป็นพลังทวีที่ยอดเยี่ยม มันช่วยยกระดับของสนามแข่งขัน
  97. โอกาสแห่งความสำเร็จที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ใช่ที่ตัวงาน
  98. ผมมักจะจดจำคน ๆ นั้นได้ดี หากคนนั้น ๆ สร้างสิ่งที่แตกต่างมากพอ
  99. ทุกวันนี้บริษัท Google มีมูลค่ามากกว่า $1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และมีบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่าง Facebook, Twitter, Amazon และอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้นเกิดจากความคิดในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแตนฟอร์ดในปี 1995
  100. ก่อนเริ่มต้นสร้าง Google ส่วนตัวผมนั้นสนใจในการทำเหมืองข้อมูล ซึ่งมันคือการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล แล้วหาแพทเทิร์นและเทรนด์ต่าง ๆ ของข้อมูล ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทาง Larry Page ก็กำลังดาวน์โหลดข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งมันกลายเป็นชุดข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดที่คุณสามารถเริ่มต้นทำเหมืองข้อมูลได้จากจุด ๆ นั้น และนั่นคือที่มาที่พวกเราร่วมกันก่อตั้ง Google

Resources