Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Quote

100 ข้อคิดจาก Warren Buffett | Blue O’Clock Podcast EP. 29

เวอร์ชั่นวีดีโอ

เวอร์ชั่น Podcast

Warren Buffett เจ้าพ่อนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าระดับตำนานเจ้าของฉายา ‘The Oracle of Omaha’ พ่อมดแห่งเมืองโฮมาฮา

และนี่คือ 100 บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา

  1. กฎการลงทุนข้อที่ 1 จงอย่าเสียเงิน
  2. กฎข้อที่ 2 จงอย่าลืมกฎในข้อที่ 1
  3. ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ ความหมายก็คือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น คือการจ่ายในราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับคุณค่าที่ได้รับ ไม่จำเป็นที่ราคาหุ้นต้องต่ำที่สุด แต่ให้ดูคุณค่าที่ได้รับนั้นสูงกว่าราคาที่จ่ายออกไป
  4. โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ดังนั้นเมื่อฝนตกเป็นทองคำ ให้รีบหาถังใหญ่ ๆ มารองน้ำฝนนั้น
  5. ในฐานะนักลงทุน ความกลัวในวงกว้างนั้นเป็นเพื่อนที่ดีของคุณ เพราะมันจะช่วยทำให้การต่อรองในการซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ นั้นได้ในราคาที่ถูกลง
  6. ไม่ว่าเราจะพูดถึง socks หรือ stocks ผมชอบที่จะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพเมื่อราคาของมันลดลง
  7. จงกลัวในยามที่คุณอื่นโลภ และจงโลภในเวลาที่คนอื่นหวาดกลัว
  8. สิ่งที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นกับเราก็คือ เมื่อบริษัทที่ยอดเยี่ยมกำลังประสบกับปัญหาชั่วคราว และเราต้องการที่จะเข้าซื้อบริษัทดังกล่าว และดีลที่ดีก็จะเกิดขึ้น
  9. การซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่ยุติธรรม ดีกว่าการซื้อบริษัทที่พอดูได้ในราคาที่ยอดเยี่ยม ความหมายก็คือ บริษัทที่ยอดเยี่ยมนั้นแม้ว่าจะไม่ได้ซื้อในราคาต่ำที่สุด มันยังดีกว่าการซื้อบริษัทที่พอไปได้ในราคาถูกที่สุด
  10. สำหรับนักลงทุนแล้วนั้น การซื้อหุ้นบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่สูงเกินไป สามารถชดเชยได้โดยการดูการเติบโตและการพัฒนาของธุรกิจดังกล่าวในอีกทศวรรษข้างหน้า ความหมายก็คือ แม้ว่าจะซื้อหุ้นบริษัทที่ยอดเยี่ยมในวันนี้ในราคาที่สูง แต่พอวันเวลาผ่านไปอีก 10 ปี บริษัทที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้น ก็จะสามารถเติบโตและสร้างผลกำไรชดเชยและคุ้มค่ากับราคาหุ้นที่เคยซื้อเอาไว้เมื่อสิบปีที่แล้วได้ในที่สุด
  11. กุญแจสำคัญของการลงทุน ไม่ได้หมายถึงว่าบริษัทดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใด หรือบริษัทดังกล่าวจะเติบโตมากแค่ไหน เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทนั้น ๆ ที่มีอยู่เหนือคู่แข่ง ยกตัวอย่างเช่น มีแบรนด์แข็งแกร่ง, มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำ เป็นต้น
  12. บริษัทที่ดีควรจะมี margin หรือส่วนต่างของกำไรที่เผื่อเอาไว้พอสมควร ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารถบรรทุกมีน้ำหนัก 9,800 ปอนด์ แล้วพยายามที่จะข้ามสะพานที่สามารถรองรับน้ำหนักได้อยู่ที่ 10,000 ปอนด์นั้น มันเสี่ยงเกินไป ดังนั้น มันจะดีกว่า ถ้าเราหาเส้นทางที่เขียนบอกเอาไว้ว่า สามารถรับน้ำหนักได้ 15,000 ปอนด์
  13. การที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้นั้น จำเป็นที่จะต้องอาศัยในเรื่องของ เวลา, ความมีวินัย และความอดทน ซึ่งมันไม่สำคัญหรอกว่า คุณจะมีพรสวรรค์และพรแสวงมากเพียงใด เพราะบางสิ่งบางอย่างนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เวลา เพราะคุณไม่สามารถมีลูก 1 คน ภายในเดือนเดียวได้โดยให้ผู้หญิงจำนวน 9 คน มาช่วยกันตั้งท้อง ความหมายก็คือ โดยปกตินั้นกว่าที่เด็กจะคลอดออกมานั้น ต้องใช้เวลาราว ๆ 9 เดือน ดังนั้น บางสิ่งบางอย่างเราไม่เร่งรัดไม่ได้ ต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
  14. การที่ใครบางคนสามารถนั่งใต้ร่มเงาได้นั้น ก็เป็นเพราะมีใครบางคนได้ปลูกต้นไม้ต้นดังกล่าวเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว นั่นคือคอนเซ็ปต์การลงทุนในระยะยาวที่ปู่เปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้ใหญ่
  15. หากคุณไม่คิดที่จะถือหุ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี คุณก็ไม่ควรแม้แต่จะคิดถือหุ้นดังกล่าวแค่เพียง 10 นาที ความหมายก็คือ ถ้าคุณไม่สามารถซื้อหุ้นแล้วถือมันเอาไว้อย่างน้อยสัก 10 ปีแล้วล่ะก็ อย่าได้คิดที่จะซื้อมันเลยจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว มันจะไม่ใช่การลงทุนที่เน้นคุณค่าในระยะยาว
  16. เมื่อเราเป็นเจ้าของหุ้นของธุรกิจที่ยอดเยี่ยม และยังมีผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมด้วยแล้วนั้น นั่นคือประเภทของบริษัทที่เรามักจะชอบถือครองมันตลอดไป
  17. เมื่อผมไม่รู้ว่าจะคาดเดาในตลาดว่ามันจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดแล้วนั้น สิ่งที่ผมแนะนำให้ทำก็คือ การเลือกที่จะซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway อย่างเดียวเท่านั้น แล้วถือครองมันเอาไว้อย่างน้อย 5 ปี ส่วนคนที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น ๆ นั้น การเลือกหุ้นบริษัทอื่นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ความหมายก็คือ ในช่วงที่ตลาดคาดเดาไม่ได้ ปู่แนะนำให้ซื้อหุ้นของบริษัทปู่แล้วถือมันเอาไว้อย่าง 5 ปีขึ้นไปจะดีกว่า
  18. เลือกซื้อหุ้น ก็เหมือนกับคุณเลือกซื้อบ้าน จงเลือกบ้านที่คุณชอบและเข้าใจมันเป็นอย่างดี
  19. ทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องของการลงทุนก็คือ การเลือกหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม จากนั้นก็อยู่กับมันไปยาว ๆ ตราบใดที่บริษัทดังกล่าวยังคงเป็นบริษัทที่ดีอยู่
  20. อย่าจริงจังกับผลลัพธ์รายปีมากเกินไป ให้โฟกัสที่ค่าเฉลี่ยในช่วง 4-5 ปี แทนจะเข้าท่ากว่า
  21. หากคุณพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในเรือที่กำลังรั่วอยู่นั้น การเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นเรือลำใหม่น่าจะให้ผลดีกว่าการทุ่มเทพลังงานที่หมดไปกับการอุดรอยรั่ว
  22. สิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าหากคุณพบว่าตัวเองกำลังตกหลุมพรางก็คือ การหยุดขุดหลุมดังกล่าว
  23. การสร้างชื่อเสียงที่ดีนั้น อาจใช้เวลานานถึง 20 ปี แต่อาจใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ในการทำลายชื่อเสียงดังกล่าวพังลงได้
  24. หากบริษัทเสียเงินผมยังพอเข้าใจได้ แต่หากบริษัทเสียชื่อเสียงผมยอมรับไม่ได้
  25. คุณไม่จำเป็นต้องมีไอคิวที่สูงแบบนักวิทยาศาสตร์ เพราะการลงทุนนั้นไม่ใช่เกมที่วัดความสำเร็จกันด้วยค่าของ IQ ของใครสูงกว่ากัน
  26. นักลงทุนที่ดีควรมีคุณสมบัติในการควบคุมอารมณ์และจิตใจของตนเองได้เป็นอย่างดี
  27. เมื่อน้ำลงคุณจะพบว่า ใครกำลังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ ก็เหมือนกับตอนที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ คุณก็จะพบได้ว่าบริษัทใดที่ดูย่ำแย่
  28. เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ไม่ว่าใครต่างก็ดูเป็นนักลงทุนระดับอัจฉริยะกันแทบทั้งนั้น จนกระทั่งเมื่อตลาดพังลงเท่านั้น คุณก็จะพบได้ว่าใครมีกลยุทธ์การลงทุนในระยะยาวที่ดี
  29. โอกาสที่ดีที่สุดในการใช้เงินลงทุนก็คือ เมื่อสิ่งต่าง ๆ กำลังตกต่ำลง
  30. เงินสดต้องกันเอาไว้เสมอสำหรับธุรกิจ มันก็เหมือนกับการมีออกซิเจนเอาไว้ตลอดเวลาสำหรับมนุษย์เรา ที่ในชีวิตปกติเราไม่เคยนึกถึงมันเลย จนกระทั่งเราขาดมันเริ่มมีมันไม่พอนี่แหละ เราถึงจะเห็นความสำคัญของมันขึ้นมาในฉับพลัน
  31. การลงทุนที่แย่ที่สุดคือการมีเงินสดเยอะเกินไป แม้ว่าใครต่อใครอีกหลายคนจะบอกว่าเงินสดนั้นคือราชา แต่พอวันเวลาผ่านไปเงินสดจะมีมูลค่าลดลง ในขณะที่ธุรกิจที่ดีนั้นจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อวันเวลาผ่านไป
  32. ถ้าคุณชอบใช้เวลาราว ๆ 6-8 ชั่วโมงต่อวันเกี่ยวกับการลงทุนก็ทำไปเลย แต่ถ้าไม่ ก็ให้คุณ DCA : Dollar Cost Averaging เพื่อถัวเฉลี่ยการลงทุนใน index funds หรือกองทุนรวมแทน
  33. เวลาซื้อกิจการ คุณจงซื้อเพราะคุณอยากเป็นเจ้าของบริษัทนั้น ไม่ใช่ซื้อเพราะอยากให้ราคาหุ้นมันขึ้น
  34. จงอย่าลงทุนในธุรกิจที่คุณไม่มีความเข้าใจ
  35. ความเสี่ยงมาจากการที่คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
  36. ให้ซื้อบริษัทที่ประวัติในการทำกำไรที่ผ่านมาอย่างแข็งแกร่ง และมีระบบแฟรนไชส์ที่โดดเด่น
  37. พวกเราต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีแต่คนอยากจะจูบลูบไล้แทนที่จะมีแต่คนอยากกระโดดตบหน้าคุณ
  38. ในโลกของธุรกิจ กระจกมองหลังมักจะใสกว่ากระจกหน้ารถอยู่เสมอ ความหมายก็คือ การมองหลังบ้านของธุรกิจนั้นจะสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่งกว่าฉากหน้าของบริษัท
  39. ก่อนที่จะซื้อบริษัทให้คุณเขียนลงบนกระดาษก่อน เช่น ฉันจะซื้อ Microsoft ที่ราคา $300,000 ล้านดอลล่าร์ฯ เพราะมันจะช่วยให้ทำให้จิตใจกระจ่างชัดเจนว่าเรากำลังจะทำอะไร และช่วยในเรื่องของการลงทุนอย่างมีวินัย
  40. งานของผมคือการแค่ไปนั่งในออฟฟิศแล้วก็นั่งอ่านทั้งวัน
  41. การลงทุนที่สำคัญมากที่สุดก็คือการที่คุณลงทุนในตนเอง
  42. ผมอ่านหนังสืออย่างน้อย 500 หน้าในทุก ๆ วัน นั่นคือวิธีการทำงานของการสั่งสมความรู้ โดยมันจะพอกพูนมากขึ้นเหมือนกับดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่การันตีได้เลยว่ามีคนจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำแบบนั้นได้
  43. ตลอดช่วงชีวิตการลงทุนของผมและชาร์ลี มังเกอร์ นั้น พวกเราไม่เคยตัดสินใจซื้อบริษัทด้วยการฟังข่าวหรือเพียงเพราะฟังคนอื่นพูดเลยแม้แต่น้อย
  44. การคาดการณ์สภาวะตลาดในระยะสั้น ๆ นั้นเปรียบดั่งยาพิษ
  45. คุณไม่ได้ทำถูกหรือทำผิดเพียงเพราะฝูงชนไม่เห็นด้วยกับคุณ แต่คุณทำถูกนั้นเป็นผลมาจากการค้นคว้าหาข้อมูลและเหตุผลที่ถูกต้องแม่นยำต่างหาก
  46. เป็นเวลามากกว่า 240 ปีแล้วที่การเดิมพันตรงข้ามกับประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ และมันก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ต่อไป
  47. ตลอดหลายสิบปีในการเข้าซื้อกิจการและดูแลกิจการต่าง ๆ ที่หลากหลายนั้น ผมและชาร์ลี ไม่ได้เรียนรู้ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่ยากที่ซับซ้อนของธุรกิจเลย แต่พวกเราเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับปัญหาซะมากกว่า ความหมายก็คือ ปู่เขาจะหลีกเลี่ยงการซื้อบริษัทที่มีปัญหาเรื้อรังแม้ว่ามันจะมีราคาถูก สู้ไปซื้อบริษัทที่ดีอยู่แล้วเลยจะดีกว่า
  48. การเก็งกำไรจะอันตรายที่สุด เมื่อมันดูแล้วน่าจะทำได้ง่ายที่สุด พวกรวยเร็ว รวยง่ายนั้นจะต้องระวัง
  49. สิ่งที่ควรระวังเอาไว้ก็คือ ความน่าตื่นเต้นและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านั้นคือศัตรูตัวฉกาจของนักลงทุนโดยตรง
  50. ทำให้เรื่องของการลงทุนเป็นเรื่องที่เรียบง่ายที่สุด อย่าเห็นแก่กำไรที่หวือหวา และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครมาชวนลงทุนแล้วการันตีผลกำไร ให้รีบ say no ไปในทันที
  51. นักเก็งกำไรนั้นอาจจะโชคดีที่สามารถทำกำไรได้ในช่วงแรก แต่น้อยคนนักที่จะทำกำไรได้ดีในระยะยาว
  52. สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากประวัติศาสตร์ก็คือ ผู้คนไม่ได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์เลยแม้แต่น้อย
  53. มันไม่ผิดหากคุณเป็นนักลงทุนที่ไม่รู้อะไรเลย แต่ปัญหาก็คือนักลงทุนที่ไม่รู้อะไรเลยกลับคิดว่าตนนั้นรู้ไปซะหมด
  54. คุณต้องสามารถประเมินบริษัทที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของคุณ ซึ่งขนาดของขอบเขตนั้นมันไม่สำคัญมากนัก ยกตัวอย่างเช่น ปู่มักจะไม่ชอบลงทุนในบริษัทที่เป็น tech company เพราะปู่นั้นรู้ขอบเขตของตนเองว่าบริษัทเหล่านั้น อยู่นอกเหนือขอบเขตความสามารถของตนเอง
  55. การกระจายการลงทุนเป็นวิธีการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่รู้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลยสำหรับผู้ที่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
  56. อย่าซื้อหุ้นเพียงเพื่อที่จะกระจายความเสี่ยง เพราะพอร์ทเกือบครึ่งนึงของ Berkshire นั้นส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับธนาคาร
  57. ถ้าคุณเป็นคนฉลาด คุณสามารถทำเงินได้อย่างมากมายโดยที่ไม่ต้องกู้ยืมเงินจากใครเลย
  58. ถ้าคุณซื้อของที่ไม่จำเป็น ในไม่ช้าคุณจะต้องขายของที่จำเป็นแทน
  59. ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เกิดมามีชีวิตโชคดีในกลุ่ม 1% ของโลก นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังติดหนี้กับมนุษยชาติที่เหลืออีก 99% ดังนั้นปู่จึงเลือกที่วางแผนบริจาครายได้กว่า 99% ให้กับองค์กรการกุศล
  60. พวกเราเรียนรู้ที่จะผลิตสินค้าและบริการออกมาเป็นจำนวนมาก แต่พวกเรากลับไม่ได้เรียนรู้ที่จะกระจายสินค้าและบริการเหล่านั้นไปให้ถึงมือผู้คนในสังคมอย่างทั่วถึง
  61. Bitcoin ไม่มีค่าอะไรเลย เพราะตัวมันเองไม่สามารถสร้างผลผลิตอะไรออกมาได้ด้วยตัวมันเองได้เลย
  62. การซื้อ Bitcoin แล้วหวังว่าสักวันจะมีคนมาขอซื้อต่อจากคุณในราคาที่สูงกว่าที่คุณซื้อมาอีกทีหนึ่งนั้น นั่นมันไม่ใช่การลงทุน มันเป็นแค่เพียงการเก็งกำไร
  63. ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จทั่ว ๆ ไป กับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็คือ คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น ส่วนใหญ่พวกเขาเป็นคนที่จะ say no เกือบจะทุกเรื่อง เกือบจะทุกอย่างเลย ความหมายก็คือ พวกเขารู้จักที่จะปฏิเสธในเรื่องส่วนใหญ่ เพื่อที่จะได้โฟกัสในเรื่องส่วนน้อยและเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด
  64. การคบคนที่ดีกว่าตัวคุณนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะพฤติกรรมของคุณมีแนวโน้มจะไปในทิศทางเดียวกันกับคนที่ดีกว่าคุณ
  65. เมื่อคุณมีผู้จัดการที่มีความสามารถสูงในการรันธุรกิจด้วยความหลงใหลแล้วล่ะก็ คุณจะได้รับ report รายงานเป็นโหล ๆ แต่ก็ยังมีเวลามากพอที่จะงีบหลับในยามบ่ายได้อยู่ แต่ในทางตรงกันข้าม หากคุณมีคนที่ส่งรายงานอันเป็นเท็จแม้แต่คนเดียว คุณจะพบว่า มีงานล้นมือที่มากเกินกว่าที่คุณจะรับไหว
  66. และสิ่งสำคัญในการควานหาผู้จัดการนั้นก็คือ การหาผู้จัดการที่มีความสามารถสูงอยู่แล้ว โดยที่พวกเราไม่ต้องบอกพวกเขาว่าควรจะต้องทำอะไรหรือทำอย่างไร
  67. เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาหุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าของกิจการแล้วนั้น นั่นน่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการใช้เงินสดเข้าซื้อกิจการ
  68. การที่ใครสักคนกำลังได้เข้าซื้อในราคาหุ้นที่ดีนั้นถูกมองว่าคือคนฉลาด ในขณะเดียวกันนั้นคนที่ทำการขายหุ้นในราคาดังกล่าวคือคนที่โง่เขลาด้วยเช่นกัน
  69. ผมไม่เห็นว่าทองคำมันจะไปมีค่าอะไร มันดีกว่ามากถ้าหากคุณมีห่านที่สามารถออกไข่ทองคำได้อยู่ตลอดเวลา
  70. การลงทุนอย่างง่ายที่สุดก็คือ การเลือกที่จะลงทุนในกองทุนรวมอย่าง S&P 500 โดยอย่าใส่เงินทั้งหมดในคราวเดียว แต่ให้ทำการ DCA ไปเรื่อย ๆ
  71. มันไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรให้หวือหวา หากต้องการผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ความหมายก็คือ การลงทุนด้วยการเล่นท่าง่ายก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน
  72. คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจที่จะซื้อหุ้นในเวลาที่มันกำลัง popular ซึ่งคุณไม่สามารถซื้อหุ้นในช่วงเวลาที่มันกำลังได้รับความนิยมแล้วสามารถสร้างผลกำไรได้งดงามในเวลาเดียวกันได้
  73. หากประวัติศาสตร์ในอดีตที่ผ่านมาเป็นสิ่งจำเป็นในเกมการเงินแล้วล่ะก็ คนที่รวยที่สุดก็น่าจะเป็นบรรณารักษ์ที่ดูแลห้องสมุดเป็นแน่แท้
  74. นักลงทุนที่เริ่มต้นลงทุนในวันนี้ จะไม่ได้รับผลกำไรที่เกิดขึ้นจากของเมื่อวาน
  75. เมื่อมีโอกาสเข้ามาคุณควรลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพอวันเวลาผ่านไปคุณก็จะไม่ได้ทำมันอีกต่อไปเลย
  76. การที่เราไม่ยอมทำในสิ่งที่เรารักนั้น เป็นการจัดการชีวิตที่แย่เอามาก ๆ
  77. เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่ก่อนอื่นเลย คุณต้องทำให้แน่ใจก่อนว่า ก่อนที่คุณจะพูดอะไรออกไป ให้คุณหาเงินได้มากพอเสียก่อน ความหมายก็คือ รวยก่อน มีใช้เหลือเฟือก่อนแล้วค่อยบอกว่าเงินนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
  78. การทำนายว่าฝนจะตกหรือไม่นั้นไม่ได้ช่วยอะไร แต่การเริ่มต้นต่อเรือนั้นช่วยได้ ความหมายก็คือ อย่ามัวไปคาดเดาตลาดว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ให้เตรียมตัวให้พร้อมรับมือจะดีกว่า
  79. ในบรรดาเศรษฐีพันล้านที่ผมรู้จัก การมีเงินเยอะมันจะช่วยแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยใจคอของคน ๆ นั้นออกมาให้ชัดยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากพวกเขาเป็นคนที่งี่เง่าแต่เดิมอยู่แล้ว พวกเขาก็แค่เป็นงี่เง่าที่มีเงินเป็นพันล้านก็เท่านั้นเอง
  80. ถ้าตอนนี้คุณอายุเท่าผม แล้วยังไม่มีใครคิดดีเกี่ยวกับตัวคุณ ซึ่งผมไม่สนใจว่าคุณจะมีเงินในบัญชีมากแค่ไหน แต่ผมรู้แค่ว่า ชีวิตของคุณนั้นกำลังอยู่ในสภาวะหายนะชัด ๆ
  81. ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว เมื่อคุณอายุเท่าฉัน คุณสามารถวัดความสำเร็จในชีวิตจากจำนวนคนที่รักคุณจริง ๆ เท่านั้น
  82. การที่คุณจะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องในชีวิตของคุณแค่เพียงไม่กี่อย่าง ตราบใดที่คุณไม่ได้ทำในเรื่องที่ผิดมากเกินไป
  83. ผมรู้อยู่เสมอว่าผมจะต้องเป็นคนรวย ผมไม่เคยคิดสงสัยมันเลยแม้แต่น้อย
  84. ความซื่อสัตย์เป็นของขวัญราคาแพงเป็นอย่างยิ่ง จงอย่าได้คาดหวังที่จะได้รับจากคนที่ไม่มีราคา
  85. เมื่อใดก็ตามที่พวกผู้จัดการโบรคเกอร์ในตลาดหุ้นเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนับล้านล้านดอลล่าร์ฯ แล้วล่ะก็ มักจะเป็นพวกผู้จัดการที่ค้ากำไรเกินควร พวกเขาทำเพื่อตัวของพวกเขาเอง ไม่ได้ทำเพื่อลูกค้า
  86. คุณจำเป็นที่จะต้องควบคุมและจัดการกับเวลาของตัวคุณเอง คุณไม่สามารถให้ผู้อื่นมากำหนดตารางชีวิตให้ได้
  87. ในโลกของธุรกิจ คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ก็คือคนที่ทำในสิ่งที่พวกเขารัก
  88. บอกผมทีว่าฮีโร่ของคุณคือใคร แล้วผมจะบอกคุณเองว่าคุณจะเป็นคนอย่างไรในอนาคต
  89. สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมก็คือการที่ผมสามารถเลือกฮีโร่เลือกไอดอลที่เหมาะสมกับตัวผมเอง
  90. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณยังคงทำในสิ่งเดิม ๆ อยู่ คุณก็จะได้รับผลลัพธ์เดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  91. สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการเตรียมความพร้อมกับอนาคตของโลกเศรษฐกิจ ก็คือ การลงทุนในด้านการศึกษาของตัวคุณเอง ซึ่งถ้าคุณทุ่มเทให้กับการเรียนรู้อย่างหนักในช่วงที่อายุยังน้อยอยู่ นั่นคือวิธีการเตรียมความพร้อมรับมือกับอนาคตที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเอง
  92. คุณครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมก็คือคุณพ่อของผม และคุณครูที่ยิ่งใหญ่อีกคน โดยเฉพาะในด้านวิชาชีพนั้นก็คือ Benjamin Graham ซึ่งก็คือผู้เขียนหนังสือ The Intelligent Investor ที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดตำราในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่เขาได้ใช้เป็นหลักในการลงทุนตลอดมา
  93. ระหว่างการออมกับการลงทุน สิ่งที่สามารถวัดได้จากคน ๆ หนึ่ง ไม่ได้หมายถึงว่าพวกเขารู้มากแค่ไหน แต่มันสามารถบ่งบอกได้ว่า พวกเขามีความรู้น้อยเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุนน้อยแค่ไหนต่างหาก
  94. คนเรานั้นดูเหมือนจะมีนิสัยเสียที่แก้ไม่ค่อยได้ก็คือ การที่ชอบทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยาก
  95. และในโรงเรียนสอนธุรกิจมักชอบให้รางวัลให้คุณค่าในเรื่องที่ยากและซับซ้อนมากกว่าในเรื่องที่ดูแสนจะธรรมดาแต่กลับมีประสิทธิภาพมากกว่าเป็นไหน ๆ
  96. เวลานั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทที่ยอดเยี่ยม แต่เวลานั้นกลับเป็นศัตรูตัวฉกาจสำหรับธุรกิจที่ย่ำแย่ ความหมายก็คือ สำหรับบริษัทที่ดีนั้น เวลาเป็นเงินทอง ในขณะที่บริษัทที่แย่นั้น หากหารายได้ไม่ทันเวลาก็อาจเจ๊งได้เลย
  97. นักลงทุนควรทำตัวราวกับว่า ในชีวิตนี้ พวกเขาสามารถตัดสินใจ สามารถออกหมัดได้เพียงแค่ 20 หมัด เท่านั้นในหนึ่งชีวิต ดังนั้นตัดสินใจให้ดี ออกหมัดเน้น ๆ ออกหมัดให้แม่นยำ อย่าออกหมัดเรื่อยเปื่อยโดยไม่จำเป็น
  98. การเรียกบางคนที่ชอบเทรดหุ้นในตลาดนั้นคือนักลงทุน มันก็เหมือนกับการเรียกใครสักคนที่ชอบออกเดทแบบ one-night stands ว่าเป็นคนโรแมนติกนั่นแหละ
  99. จงซื้อหุ้นบริษัทที่คุณมีความสุขที่จะถือมัน แม้ว่าตลาดหุ้นจะปิดตัวลงนานนับ 10 ปีก็ตามที
  100. ให้ลองจินตนาการดูหากสมมติว่าในชีวิตหนึ่งของคนเรานั้น สามารถเลือกรถได้แค่เพียงหนึ่งคันเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ คุณจะเฝ้าถนุถนอมดูแลรถคันนั้นมันเป็นอย่างดี ดังนั้นลองพิจารณาดูว่าในตอนนี้ตัวของคุณมีเพียงแค่หนึ่งร่างกายหนึ่งจิตใจ ดังนั้น จงเตรียมความพร้อมที่จะใช้ร่างกายและจิตใจนี้ในการขับเคลื่อนชีวิต เพราะนี่คือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในตัวคุณ จงดูแลรักษามันเป็นอย่างดี

Resources