Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

คน 7 ประเภทที่ต้องหลีกเลี่ยง หากคุณต้องการเป็นคนรวย

“Show me your friends and I will show your future” แสดงเพื่อนของคุณให้ผมเห็น แล้วผมจะทำนายอนาคตของคุณให้ดู คำสอนที่ Dan Lok  มักจะพร่ำบอกอยู่เสมอว่า อย่าพยายามสุงสิงกับคนจน เพราะเพื่อนคุณเป็นยังไง ตัวคุณเองก็ไม่แตกต่างจากพวกเขา ซึ่งในที่นี้หลายคนอาจตัดสิน Dan Lok ไปแล้วว่าแค่ไอ้การไม่มีเงินคุณก็รังเกียจกันแล้วหรือ แต่ Dan Lok ได้บอกเอาไว้ว่า คนจนที่เขาหมายถึงนั้น มันน่ากลัวกว่าคนที่ไม่มีเงินเสียอีก เพราะแต่เดิมทีตัวของเขาเองนั้นก็เคยเป็นคนจนมาก่อน ไม่มีเงิน มีแต่รถเก่า ๆ อยู่ในบ้านเล็กอย่างกับรูหนู ไม่มีธุรกิจ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าการไม่มีเงินก็คือแนวความคิดแบบจน ๆ ต่างหาก เพราะต่อให้พวกเขามีเงินล้านในวันนี้ แต่ด้วยความคิดแบบจน ๆ ของพวกเขา ก็จะทำให้เงินก้อนนั้นหายวับไปในพริบตา

คนประเภทที่ 1 – มีจิตใจที่ยากจน Poor In Spirit

ความจนประเภทนี้ จะพบได้บ่อยกับคนที่ชอบบ่นนู่นนี่นั่น บ่นได้ทุกเรื่อง บ่นได้ทุกอย่าง โดยเกิดมาเป็นพวกขี้แพ้โดยสมบูรณ์ โดยพวกเขามักจะบ่นว่า มันทำไม่ได้หรอก มันไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าเสียเวลาไปทำเลย เพราะฉันเคยลองทำมาก่อนแล้วมันก็ไม่เวิร์ค และพวกเขานั้นก็จะพยายามพูดคุยกับคุยเพื่อให้คุณคล้อยตามและเชื่อว่า ตัวคุณเองนั้นก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ดังนั้น กลุ่มคนเหล่านี้อันตรายมาก เพราะคำพูดจากปากของพวกเขา มันสามารถกลายเป็นโรคติดต่อมาสู่ตัวคุณได้ ดังนั้นจงอยู่ให้ห่างจากคนที่คิดลบ คนที่ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป

คนประเภทที่ 2 – ขาดแคลนความรัก Poor In Love

คุณคงเคยเห็นคนที่มีชีวิตแบบขาดความรัก ขาดความอบอุ่น อยู่มาบ้าง หากคุณลองสังเกตพวกเขาดี ๆ พวกเขาเหล่านั้นเป็นคนที่ดูเศร้า ไม่มีความสุข หน้าตาหดหู่ บางคนก็หนักถึงขั้นไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ดังนั้นต่อให้ได้เงินล้านเข้ามาในครอบครอง พวกเขาก็ไม่สามารถใช้เงินนั้นปรนเปรอหาความสุขใส่ตัวเองได้ ถ้าได้เงินมาก็กลับนำเงินไปดื่มเหล้าเมายา เพื่อคลายเศร้า

หรือเอาเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้นอีกหน่อย หลายคนคงเคยผ่านการอกหักมาบ้าง ก็จะเข้าใจว่า เวลาที่ถูกแฟนทิ้งนั้น มันหดหู่มากแค่ไหน และคนที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์นั้นได้ ชีวิตก็จะมีแต่แย่ลง แต่ในขณะที่หลายคนที่สามารถออกจากวังวนความเศร้านั้นมาได้ ชีวิตก็จะเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง ซึ่งเคล็ดลับในการสร้างความรักก็คือ ต่อให้ไม่มีใครบนโลกใบนี้รักคุณเลยแม้แต่คนเดียว แต่หากคุณยังคงรักตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม รักตัวเองอย่างสุดหัวใจแล้วล่ะก็ ชีวิตคุณก็จะมีแต่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเมื่อคุณรักตัวเอง ความรักนั้นก็สามารถส่งต่อแก่คนอื่น ๆ ได้ และเมื่อคนอื่น ๆ ได้สัมผัสความรักจากคุณ พวกเขาก็เริ่มที่จะตอบแทนคุณด้วยการมอบความรักกลับคืน

คนประเภทที่ 3 – ขาดแคลนปัญญา Poor In Wisdom

หากอ้างอิงจากคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านได้เคยสอนในเรื่องของบัวสี่เหล่าเอาไว้ว่า หากเปรียบคนเป็นดอกบัวนั้น จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 – ดอกบัวพ้นน้ำ หมายถึงกลุ่มคนที่มีความเฉลียวฉลาด เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อได้รับแสงอาทิตย์ดอกก็เบ่งบานในทันที

ประเภทที่ 2 – ดอกบัวปริ่มน้ำ หมายถึงกลุ่มคนที่มีสติปัญญาปานกลาง เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการฝึกฝนอบรมเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่นาน เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำที่รอการเบ่งบานในวันถัดไป

ประเภทที่ 3 – ดอกบัวใต้น้ำ หมายถึงกลุ่มคนที่มีสติปัญญาน้อย แต่ยังรู้จักผิดชอบชั่วดี เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการฝึกฝนอบรมเพิ่มเติมอยู่เสมอ บวกกับมีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก มีความเชื่อมีศรัทธา มีสติ ในท้ายที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันใดวันหนึ่งในภายภาคหน้า เปรียบเสมือนบัวใต้น้ำ ที่จะค่อย ๆ โผล่ขึ้นพ้นน้ำได้ในที่สุด

ประเภทที่ 4 – ดอกบัวใต้ตม หมายถึงกลุ่มคนที่ไร้สติปัญญา และเป็นพวกที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เมื่อได้ฟังธรรมแล้วอาจไม่สามารถเข้าใจหรือรู้ความหมายของคำสอน ขาดความเพียรพยายาม เปรียบเสมือนบัวที่จมอยู่ใต้โคลนตม ที่มีแต่จะตกเป็นอาหารของเหล่าบรรดาปลาน้อยใหญ่ ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำและไม่มีโอกาสได้เบ่งบาน

ดังนั้นจงอยู่ให้ห่างกับคนที่เป็นบัวใต้ตม เพราะต่อให้พวกเขาได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในโลก พวกเขาก็อาจที่จะปฏิเสธโอกาสนั้นในที่สุด ดังนั้นอย่าเสียเวลากับคนกลุ่มนี้

คนประเภทที่ 4 – มีพฤติกรรมแย่ ๆ Poor In Character

คนเหล่านี้มีอุปนิสัยที่ไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น เป็นคนที่ชอบพูดโกหก ชอบโกง ชอบลักเล็กขโมยน้อย ไม่มีความซื่อสัตย์ คุณไม่สามารถไว้วางใจคนเหล่านี้ได้ ไม่ว่าตอนนี้คุณจะกำลังลำบากหรือสุขสบายอยู่ คนกลุ่มนี้จะมีแต่ทำให้คุณแย่ลงในทุก ๆ ทาง หากตอนนี้คุณร่ำรวยแล้ว คนกลุ่มนี้จะคอยโกงกินคุณ และหากคุณชะล่าใจ จากเดิมที่คุณมีเงิน ร่ำรวยอยู่ คนเหล่านี้สามารถทำให้คุณเจ๊งและกลับมายากจนได้ น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

คนประเภทที่ 5 – มีอุปนิสัยจน Poor In Habits

เป็นพวกที่ขี้เกียจ ชอบผัดวันประกันพรุ่ง รักความสะดวกสบาย ไม่ยอมลำบากก่อนสบายทีหลัง เป็นพวกติดเหล้าเมายา ติดบุหรี่ จงตีตัวออกห่างจากคนกลุ่มนี้เอาไว้ เพราะแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ กินเหล้าเมายา แต่หากคุณคลุกคลีอยู่กับกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ช้าก็เร็วคุณก็อาจกลายเป็นพวกขี้เกียจ สูบบุหรี่จัด ติดเหล้าอย่างหนักได้ในที่สุด

คนประเภทที่ 6 – มีทัศนคติที่แย่ Poor In Attitude

โรคทัศคติที่แย่นั้น เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หากคุณลองสังเกตดี ๆ เวลาที่คุณอยู่ใกล้ ๆ ใครสักคนที่มีทัศคติเชิงลบ เหมือนคุณสัมผัสได้ว่า พวกเขาเหล่านั้นมีพลังงานบางอย่างที่เมื่อคุณสัมผัสแล้วรู้สึกบรรยากาศมาคุ หรือบรรยากาศรอบ ๆ ตัวของคนเหล่านั้นจะดูหดหู่อย่างน่าแปลกใจ

และพลังงานลบเหล่านี้ อาหารอันโอชะของพวกมันก็คือ พลังงานในตัวคุณ พวกมันจะดูดกลืนพลังจนคุณไม่มีแรงกายแรงใจที่จะทำอะไรต่อมิอะไรให้คุณภาพชีวิตของตัวคุณเองดีขึ้น

ดังคำกล่าวที่ว่า

“Stay away from negative people. They have a problem for every solution.”

หมายถึง จงอยู่ให้ห่างจากผู้คนที่ชอบคิดลบ เพราะพวกเขาจะมีปัญหากับทุกทางออกอยู่เสมอ

Albert Einstein

คนประเภทที่ 7 – ไม่มีความฉลาดทางการเงิน Poor In Finance

อย่างที่บอกเมื่อตอนต้นแล้วว่า การไม่มีเงินนั้นเป็นปัญหาชั่วคราว เพราะมหาเศรษฐีหลายต่อหลายคนก็เริ่มต้นมาจากการไม่มีเงินมาก่อน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าตัวเงินก็คือ การมีความฉลาดทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวิธีการหาเงิน วิธีการออมเงิน วิธีการบริหารเงิน วิธีการใช้เงินลงทุน จะสังเกตได้ว่าแม้มหาเศรษฐีหลายคนจะเจอเข้ากับวิกฤตจนถึงกับล้มละลาย แต่เศรษฐีที่แท้จริงนั้น สุดท้ายพวกเขาก็จะกลับมามีฐานะดีดังเดิม เพราะพวกเขามีความรู้ทางการเงิน

ในขณะที่คนจนส่วนใหญ่นั้น อย่าว่าแต่ความรู้ทางด้านการเงินเลย แค่ให้พูดถึงเรื่องเงินพวกเขาก็ยี้แล้ว พอพูดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็มักจะบ่ายเบี่ยง แถมยังเห็นคนมีเงินเยอะ ๆ เป็นพวกขี้โกง เป็นพวกไม่ดีอีก ทั้ง ๆ ที่คนรวยที่ดีหลายต่อหลายคนนั้น ตอบแทนคืนสู่สังคมกันอย่างมากมาย

ดังนั้นจงอย่าเกลียดหรืออายที่จะคุยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะการมีเงินเยอะนั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับการเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เพราะถ้าหากคนไม่ดีมีเงินเยอะ พวกเขาจะสร้างความเสียหายได้ในวงกว้างมาก แต่ในขณะที่คนดีมีเงินเยอะนั้น สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกไปในทางที่ดีได้อย่างมหาศาลเช่นกัน

Resource