Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

ต่อให้เอา Bitcoin ทั้งโลกมาขาย ในราคา $25 Warren Buffett ก็ไม่ซื้อ

เป็นกระแสกันอีกครั้งกับการที่ Warren Buffett พ่อมดนักลงทุนระดับตำนานแห่งเมือง Ohmaha ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องของ Bitcoin ในงาน Meeting ประจำปีของผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา

โดย Warren Buffett กล่าวว่า ถ้าหากพวกคุณเป็นเจ้าของที่ดินการเกษตรทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แล้วยื่นข้อเสนอให้กับเขาว่า จะแบ่งผลกำไรเป็นจำนวน 1% ให้กับเขา แล้วแลกกับเงินลงทุนเป็นจำนวน $25,000 ล้านดอลล่าร์ฯ (ราว ๆ 8.6 แสนล้านบาท) เขาจะรีบเซ็นต์เช็คสั่งจ่ายให้ภายในบ่ายของวันนั้นเลย

หรือหากคุณเป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด แล้วยื่นข้อเสนอแบ่งผลกำไรเป็นจำนวน 1% เพื่อแลกกับเงินลงทุนจำนวน $25,000 ล้านดอลล่าร์ฯ (ราว ๆ 8.6 แสนล้านบาท) เขาก็จะรีบเซ็นต์เช็คสั่งจ่ายให้คุณทันทีเช่นกัน

มันง่าย ๆ แบบนั้นเลย

แต่ถ้าหากคุณถือครอง Bitcoin ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกใบนี้ แล้วคุณมายื่นเสนอขายให้เขาในราคา $25 หรือประมาณ 800 กว่าบาท เขาจะไม่ซื้อมัน เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเอามันไปทำอะไรได้ นอกจากหาคนที่อยากซื้อต่อจากเขา และก็ต้องเป็นคนแบบเดียวกัน ที่อยากได้มันไปครอง มันทำอะไรนอกจากนั้นไม่ได้เลย

แต่ในขณะที่อพาร์ทเม้นท์นั้น มันสามารถสร้างรายได้ได้ด้วยตัวมันเองจากการเก็บค่าเช่าห้อง และฟาร์มนั้น ก็สามารถสร้างผลผลิตเป็นอาหารออกได้

แต่เมื่อเขาลองนึกเล่น ๆ ว่า ถ้าหากเขาครอบครอง bitcoin ทั้งหมดแล้ว จู่ ๆ ผู้สร้างมันขึ้นมาอย่าง Satoshi Nakamoto ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาหรือพวกเขาเป็นใคร ซึ่งในเมื่อถ้าหากเหรียญทั้งหมดอยู่ในมือของปู่ แล้วจู่ ๆ ปู่ก็อยากกำจัดเหรียญนี้ ก็ามารถทำได้ในทันที เพราะมันอยู่ในมือของเขาทั้งหมดแล้ว แบบนี้เรียก Buffett’s coin น่าจะถูกกว่า หรือไม่ก็สร้างเหรียญเองขึ้นมาใหม่เลยจะดีกว่าไหม?

เพราะเท่าที่ปู่นึกออก เขาไม่รู้จะเอาเหรียญ Bitcoin ไปทำอะไร นอกจากหาคนที่อยากซื้อต่อจากเขา ในราคาที่สูงกว่าต้นทุนที่เขาซื้อมา และคนที่ซื้อต่อจากปู่ก็ต้องไปหาคนที่อยากซื้อต่อจากเขาในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมาจากปู่อีกทีหนึ่ง มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งตัวมันเองกลับไม่ได้สร้างผลผลิตอะไรขึ้นมาได้ด้วยตัวมันเองเลย เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ Productive Asset ที่เป็นทรัพย์สินที่สามารถสร้างผลผลิตขึ้นมาได้ด้วยตัวมันเอง ก็จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

ในขณะที่ในตลาด crypto นั้นกลุ่มที่เห็นจะได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือกลุ่มคนที่ได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญระหว่างอีกคนไปยังอีกคน คุณลองนึกภาพดูว่า ตลาดนี้มันไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาเลย มันเหมือนกับเอาคนมานั่งรวมกันในห้องห้องหนึ่ง แล้วแต่ละคนก็หมุนเวียนเปลี่ยนเงินกันไปมาภายในห้องนั้น มันยังคงมีเม็ดเงินเท่าเดิม มันไม่ได้ผลิตเงินเพิ่มขึ้นในระบบนั้น

และนอกจากนั้น หากบริษัท Berkshire Hathaway จู่ ๆ จะออกเหรียญ Berkshire’s coin ขึ้นมา มันก็สามารถทำได้ แต่จะต้องมีปัญหากับทางรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ คงไม่ยอมที่จะให้เงินสกุลอื่นนอกเหนือจากเงินสกุลดอลล่าร์ฯ มาใช้แทนกันได้อย่างแน่นอน

แต่เชื่อเหลือเกินว่า ก็ยังมีอีกหลายคนที่รู้ว่า Bitcoin สามารถนำเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้างนั้น พวกเขาเหล่านั้นยินดีที่จะซื้อ Bitcoin ทั้งหมดบนโลกจากปู่ Warren Buffett ในราคา $25 อย่างแน่นอน

Resources