Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

อยากสำเร็จจงฟัง คำแนะนำจาก Jack Ma ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน

สำหรับโพสต์นี้ผมได้มีโอกาสดูวีดีโอที่ Jack Ma ได้พูดในงาน KBS1 เมื่อหลายปีที่แล้ว โดยในฐานะที่เขานั้นก็มีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ย่างวัยเลข 5 และนี่ก็คือสิ่งที่เขาอยากส่งต่อแก่คนรุ่นใหม่ว่า ในแต่ละช่วงอายุนั้น ควรทำอะไรบ้าง

ในช่วงอายุก่อน 20 ปี Jack Ma แนะนำว่า เราควรตั้งใจเรียนให้มาก ๆ เป็นผู้เรียนที่ดี และหาโอกาสในการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ประกอบการบ้าง

ต่อมาคือในช่วงอายุ 20-30 ปี คุณควรจะติดตามใครสักคนที่ทำธุรกิจ SME ที่ไม่ใช่องค์กรที่ใหญ่มากนัก เพราะหากเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ๆ ถ้าคุณเข้าไปสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากองค์กรใหญ่ ๆ ก็คือ Process หรือกระบวนการทำงานซะเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ตัวคุณเองนั้นก็เปรียบเสมือนฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งที่อยู่ในเครื่องจักรขนาดใหญ่

แต่ในขณะที่หากคุณเข้าไปทำงานที่มีองค์กรขนาดเล็ก สิ่งที่คุณจะเรียนรู้ก็คือ ความหลงใหลและความฝันของเจ้าของบริษัทตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ที่มีพลังแรงกล้าที่ต้องการจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ซึ่งในระหว่างนั้นเอง ตัวคุณที่เข้าไปในองค์กรขนาดเล็กนั้น ทรัพยากรยังคงมีอยู่อย่างจำกัด ไม่ว่าจะเป็น เงินทุน, เครื่องจักร หรือคน ดังนั้น มันจะมีงานหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ คุณจะได้มีโอกาสทำงานหลากหลายมาก ๆ ในคราวเดียวกัน

ซึ่งหากใครเคยดูโฆษณาชิ้นหนึ่ง ที่มีผู้ประกอบการที่เริ่มต้นด้วยตัวคนเดียว แต่ต้องรับบทบาทการเป็นพนักงานทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ รปภ., พนักงานต้อนรับ, แม่บ้าน, พนักงาน, หัวหน้า และ CEO ดังนั้น เมื่อคุณเข้าไปในองค์กรเล็ก ๆ และตัวคุณก็คือพนักงานคนแรก ๆ ของบริษัท แน่นอนว่า คุณจะต้องสามารถทำงานได้อย่างหลากหลายพอตัวเลยทีเดียว

และจุดประสงค์หลักที่ต้องทำแบบนี้ก็คือ ในช่วงอายุ 20-30 ปีนั้น ไม่ใช่การเลือกทำงานแต่บริษัทใหญ่ ๆ ที่มั่นคง แต่เป็นการเลือกโอกาสในการเรียนรู้อย่างใกล้ชิดกับเจ้าของบริษัท และหากคุณพบกับเจ้าของที่ดี เขาจะสอนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคุณได้อย่างมากมาย

ยกตัวอย่างเช่น มีรุ่นพี่ของผมคนหนึ่ง ได้เคยเล่าประสบการณ์ในการทำงานกับองค์กรขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่กำลังเติบโต ซึ่งเขาได้เข้าไปสมัครงานในตำแหน่งพนักงานคีย์ข้อมูล แต่ในระหว่างนั้นเอง ก็มีพนักงานในฝ่ายจัดซื้อ จัดหาของเข้าบริษัท ลาออกกระทันหัน ทำให้เขาได้จับพลัดจับผลู ได้เข้าไปทำตำแหน่งนั้นแทนคนที่ลาออก ซึ่งเจ้าตำแหน่งจัดซื้อนี่แหละ ที่ทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับเจ้าของบริษัทเป็นอย่างมาก แม้ว่าเงินเดือนจะไม่เยอะ แต่เขาได้เรียนรู้วิชาแทบทุกอย่างที่คนเป็นผู้ประกอบการคนหนึ่งจะต้องรู้จากเจ้าของบริษัทโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นวิชาการต่อรองเจรจากับคู่ค้า, วิธีการดูบัญชี, วิธีการบริหารคน, วิธีการหาลูกค้า, วิธีการเลือกสินค้าที่ดี เรียกได้ว่า ราวกับได้เรียนวิชา MBA หรือ Master of Business Administration หรือ ปริญญาบริหารธุรกิจระดับมหาบัณฑิต โดยไม่ต้องจ่ายค่าหน่วยกิตเลยสักบาท

เท่ากับว่าในตอนนั้น รุ่นพี่ท่านนี้ เขามีความรู้มากพอที่พร้อมจะกลายเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ได้เลย

กลับมาที่คำแนะนำจาก Jack Ma กันต่อ โดยเขาได้แนะนำต่อว่า ในช่วงอายุ 30-40 ปี สิ่งที่คุณควรทำก็คือ การคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเกี่ยวกับการทำเพื่อตัวคุณเอง และหากต้องการเดินในเส้นทางผู้ประกอบการแล้วล่ะก็ ช่วงเวลานี้แหละที่เหมาะสมที่สุดในการลุยให้เต็มที่

ต่อมาคืออายุช่วง 40-50 ปี เป็นช่วงที่คุณจะต้องโฟกัสการทำในสิ่งที่คุณถนัดและทำได้ดีที่สุด ในสายงานคุณ ให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก ซึ่งในช่วงวัยนี้คุณไม่ควรที่จะเปลี่ยนงานไปมาในสายงานอื่น เพราะมันสายเกินไปที่จะเปลี่ยนวงการแล้ว ซึ่งจริงอยู่ว่า มันจะมีโอกาสที่คุณเปลี่ยนสายงานแล้วจะประสบความสำเร็จได้ แต่หากมันล้มเหลว คุณจะไม่มีโอกาสแก้ตัว หรือมีโอกาสแก้ตัวแต่เหลือเวลาน้อยมาก เพราะตัวคุณที่มีอายุมากขึ้น กำลังวังชาทั้งด้านร่างกายและสติปัญญานั้น ก็ไม่สดใหม่เท่าตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่

และในช่วงอายุ 50-60 ปี สิ่งที่คุณควรทำก็คือ การทำเพื่อคนรุ่นใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า คนรุ่นใหม่ ๆ นั้น พวกเขาย่อมเก่งกว่าตัวคุณ ดังนั้น จงลงทุนในพวกเขา เชื่อมั่นและไว้วางใจในพวกเขา และทำทุกอย่างให้มั่นใจว่า พวกเขาจะเติบโตและมีความก้าวหน้าทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตได้เป็นอย่างดี

และเมื่อคุณอายุ 60 ปีขึ้นไป สิ่งเดียวที่คุณควรทำก็คือ การให้ตัวเองพักผ่อน ซึ่งคุณอาจจะใช้ชีวิตอยู่ที่ริมชายหาด อาบแดดสักที่ใดที่หนึ่ง ใช้ชีวิตแบบชิล ๆ ได้แล้ว เพราะมันสายเกินกว่าที่จะทำอะไรแล้วนั่นเอง

ดังนั้น หากตอนนี้คุณยังอายุน้อย ยังมีแรงอยู่ จงไขว่คว้าหาประสบการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว เพราะในช่วงนี้คุณยังคงมีทั้งร่างกายที่แข็งแรง ยังมีเวลาที่เหลือเยอะ ในการล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุก จงสนุกไปกับมัน


สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจในการเรียนรู้การทำแอนิเมชั่นสไตล์ BlueoClock
วันนี้คุณสามารถลงทะเบียนเรียนได้ฟรี ได้แล้วในคอร์สที่ชื่อว่า
Basic Whiteboard Animation

และหากดูเวอร์ชั่นฟรีจบแล้ว ต้องการไปต่อและซับพอร์ททีมงาน Blueoclock
คุณสามารถลงทะเบียนเรียนได้ในคอร์ส
Advanced Whiteboard Animation
ที่กำลังเปิดให้ลงทะเบียนในราคาพิเศษอยู่ ณขณะนี้
โดยคุณสามารถดูรายละเอียดการลงทะเบียนที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Resources