Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Money

Elon Musk เตือน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้มาถึงแล้ว

ต้องยอมรับว่า Elon Musk คือผู้ประกอบการที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ที่เขานั้น สามารถสร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง จนสามารถกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ ด้วยทรัพย์สินรวมอยู่ที่ $218,100 ล้านดอลล่าร์ฯ หรือราว ๆ 7.6 ล้านล้านบาท

ที่เขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องของมุมมองของเขาที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ณ ขณะนี้ ในรายการ All-in Podcast ซึ่งอันที่จริง ณ ตอนนี้ ใครต่อใคร ต่างก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า โลกของเรากำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นราคาของกินของใช้ที่มีการขึ้นราคาอย่างพรวดพราด และค่าน้ำมันนั้นมีแต่จะขึ้นเอา ๆ

ตลาดหุ้น ตลาดคริปโต ก็พังลงเละเทะ

และนี่คือความเห็นของ Elon Musk ที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้

ซึ่งเขาบอกว่า การทำนายสภาวะเศรษฐกิจนั้น มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำนายได้ยาก และแม้ว่าตัวบ่งชี้ต่าง ๆ จากนักวิเคราะห์บอกว่า เศรษฐกิจของโลกนั้น กำลังอยู่ในช่วงภาวะที่ถดถอยจริง แต่เขาก็มองว่า การถดถอยของภาวะเศรษฐกิจนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องที่แย่เสมอไป เพราะโดยส่วนตัวของเขานั้น ก็เคยผ่านสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจมาก่อนหน้านี้เช่นนั้น

และเขาก็ยังบอกว่า การที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูอู่ฟู่อย่างต่อเนื่องและยาวนานนั้น จริง ๆ แล้ว มันก็มีข้อเสียของมันอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ เมื่อเงินมันเยอะมาก ๆ มันก็จะมีปัญหาในการจัดสรรเงินทุนได้ไม่ดีพอ หรือพูดตรง ๆ เลยก็คือ เงินจะตกไปอยู่กับคนทึ่ม ๆ และแน่นอนว่าคนทึ่ม ๆ นั้นใช้เงินกันแบบเละเทะสิ้นดี

และเมื่อคราวเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมา มันเหมือนกับการล้างไพ่ในกองใหม่ เพื่อขจัดบริษัทที่จัดการกับการเงินไม่ได้เรื่องออกไป เหลือไว้แต่เพียงบริษัทที่ดี ๆ ที่สามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและจัดการกับเรื่องของเงินทุนได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในช่วงปี 2000 ตอนที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่ดอทคอม ที่ตอนพีค ๆ เลยก็ช่วงเดือน มีนา เมษา ที่เกิดปรากฏการณ์ที่ว่า แม้ต่บริษัทเจ๋ง ๆ ตัวท๊อป ๆ ก็ไม่สามารถระดมทุนได้ง่าย

ซึ่งตอนนั้นทาง Elon Musk ยังคงทำธุรกิจที่บริษัท Paypal ที่เป็นแพลตฟอร์มในการชำระเงินออนไลน์ ที่ช่วงนั้นเขาโชคดีหน่อยตรงที่ว่า เขาสามารถระดมทุนได้จำนวนราว ๆ $100 ล้านดอลล่าร์ฯ ในช่วงเดือน มีนาคม ปี 2000 และก็เกิดภาวะเศรษฐกิจล่มสลายแย่สุด ๆ ในช่วงเดือน เมษายน ปี 2000 หรืออีก 1 เดือนถัดมา

ซึ่งตัวของ Elon Musk เองนั้น เขายอมรับว่า ถ้า paypal ไม่สามารถระดมเงินทุนก้อนนี้ได้ทัน paypal จะล้มละลายในทันที

ซึ่งการที่บริษัทแต่ละบริษัทจะรอดในภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้นั้น บริษัทดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมี Product ที่ยอดเยี่ยม เป็นประโยชน์กับผู้คนจริง ๆ อย่างสมเหตุสมผล และเร่งสร้างกระแสเงินสด บวกกับการสำรองเงินทุนเอาไว้ให้เพียงพอที่จะสามารถนำพาบริษัทให้ดำเนินกิจการและมีเงินเพื่อพยุงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพียงพอจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้

ซึ่ง ณ ตอนนี้เขาคิดว่าเรากำลังอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมันกำลังจะแย่ยิ่งไปกว่านี้อีก ซึ่งมันจะเป็นช่วงเวลาที่ยาก ที่อาจกินเวลายาวนานอาจจะกินเวลา 12-18 เดือนนับจากนี้ ที่กว่าจะเศรษฐกิจจะกลับจะเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่ง

และสาเหตุที่เกิดค่าเงินเฟ้ออย่างรุนแรงนั้น ก็เกิดมาจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ นั้น ได้ปริ้นท์เงินดอลล่าร์ภายในระยะเวลาอันสั้นออกมาเป็นจำนวนมหาศาลหลายล้านดอลล่าร์ฯ ซึ่งมันทำให้จำนวนเงินมีมากเกินกว่าในระบบเศรษฐกิจที่ควรจะมี และมันก็เป็นธรรมดาที่เมื่อจำนวนเงินในระบบมีมากขึ้น มันก็จะส่งผลให้ค่าสินค้าอุปโภัคบริโภคมีการปรับราคาที่สูงขึ้น มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนอะไรเลย

เพราะถ้าหากการปริ้นท์เงินมันส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของอเมริกา คำถามก็คือ แล้วทำไมไม่ปริ้นท์เงินดอลล่าร์ออกมาให้มากกว่านี้ล่ะ? ปริ้นท์เพิ่มสักร้อยเท่ากันไปเลย

คำตอบนั้นก็ง่าย ๆ หากปริ้นท์เงินจำนวนมากเกินไป สุดท้ายเงินดอลล่าร์จะด้อยค่าลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลายประเทศก็เคยมีเหตุการณ์การล่มสลายของสกุลเงินมาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเวเนซูเอล่า ที่รัฐบาลเอะอะอะไรก็ปริ้นท์เงิน จนสกุลเงินโบลิวาร์นั้นด้อยค่า ที่เรียกได้ว่า ไปซื้อกระดาษทิชชู่ม้วนนึง ต้องขนเงินไปเป็นเข่งถึงจะพอจ่าย

ดังนั้นระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงนั้น จะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่จากการปริ้นท์เงิน แต่เศรษฐกิจที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อในระบบเศรษฐกิจจะต้องมีผลผลิตของสินค้าและบริการออกมา ไม่ใช่จำนวน ‘MONEY’ หรือจำนวนเงินที่มีอยู่ในระบบ

คำถามคือแล้ว ‘MONEY’ หรือเงินคืออะไร?

โดย Elon Musk บอกว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราใช้มันเป็นเงิน หน้าที่หลักของมันก็คือ เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้โดยสะดวก โดยที่ไม่ต้องใช้ของมาแลกซึ่งกันและกัน และสามารถใช้เป็นมาตรฐานในการชำระหนี้ในภายภาคหน้าได้ นั่นคือหน้าที่หลัก ๆ ของเงิน ที่คุณจำเป็นต้องมีมันไว้ในครอบครอง

ส่วนความหมายของ ‘MONEY’ นั้นทาง Blue O’Clock ได้ทำคลิป Elon Muskให้ความหมายของคำว่า ‘MONEY’ เอาไว้แล้ว สามารถย้อนฟังได้เลยครับ

Resources