Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Bitcoin and Cryptocurrency

Michael Saylor ตอกกลับ Warren Buffett ที่ไม่ยอมซื้อ Bitcoin

จากเนื้อหาก่อนหน้านี้ที่ทาง Warren Buffett ได้ออกมาพูดถึง Bitcoin ในงานประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ว่า ต่อให้มีคนที่มี Bitcoin ทั้งโลกเอามาเสนอขายในราคา $25 หรือประมาณ 870 บาท เขาก็ไม่ซื้อ แต่หากมีคนมาเสนอขายสิทธิในที่ดินทำการเกษตรและอพาร์ทเม้นต์ ทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกา แลกกับผลตอบแทนเพียง 1% เขายินดีที่จะจ่ายด้วยเงิน $25,000 ล้านดอลล่าร์ฯ กับที่ดินการเกษตร และอีก $25,000 ล้านดอลล่าร์ฯ กับอพาร์ทเม้นต์ให้เช่า ในช่วงบ่ายของวันนั้นในทันที

โดยในเวลาต่อมาทาง Michael Saylor เจ้าของบริษัท MicroStrategy บริษัทมหาชนที่มี Bitcoin ในครอบครองมากที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ อยู่จำนวนราว ๆ 129,218 เหรียญ BTC ก็ได้ตอบกลับประเด็นนี้ถึงปู่ Warren Buffett กับคู่หูของเขาอย่าง Charlie Munger ว่า

น่าเสียดายที่ทาง Warren Buffett เขาลืมมองว่า ที่ดินคือรูปแบบหนึ่งของ Physical Capital คือ เป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตนและสามารถใช้ในงานการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ และเช่นเดียวกันพวกที่อยู่อาศัยก็เป็น Physical Capital ที่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นมาเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเช่าที่ดินเพื่อทำกินได้ และเจ้าของก็สามารถเก็บค่าเช่าจากพวกเขาเหล่านั้นได้

ในขณะที่ Bitcoin นั้น ทาง Michael Saylor บอกว่า มันคือ Digital Capital เป็นสินทรัพย์ดิจิตอล ที่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นกู้ยืมได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมี Bitcoin ในครอบครอง ตีเป็นจำนวนเงินเทียบกับดอลล่าร์ฯ อยู่ที่ $1,000,000 คุณสามารถนำมันไปปล่อยกู้เพื่อแลกกับดอกเบี้ยได้ในทันทีทันใด ณ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ Bitcoin มันกลายมาเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการมีไว้ในครอบครอง

โดย Michael Saylor เขาได้ยกตัวอย่างว่า สมมติว่าถ้าหากเขาซื้อที่ดินในประเทศอาร์เจนตินาด้วยเงินจำนวน $1,000,000 ดอลล่าร์ฯ เขาจะสามารถปล่อยเช่าให้แก่เกษตรกรได้ในเฉพาะที่อยู่อาศัยในประเทศอาร์เจนตินาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น

และเช่นเดียวกัน หากเขาซื้ออพาร์ทเม้นต์ในประเทศอาร์เจนตินา เขาก็จะสามารถปล่อยเช่าให้แก่ผู้คนที่ต้องการอาศัยอยู่ในประเทศอาร์เจนตินาได้เพียงประเทศเดียวเท่านั้น

แต่ในขณะที่เขาซื้อ Bitcoin ในประเทศอาร์เจนตินา ด้วยเงินจำนวน $1,000,000 ดอลล่าร์ฯ เช่นเดียวกัน แต่เขาสามารถปล่อยกู้เพื่อเก็บดอกเบี้ยแก่นายทุนที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ที่เสนอให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 8% ต่อปี ได้ในทันที หรืออาจมีนายทุนจากประเทศอังกฤษ ได้ยินข่าวการให้กู้ยืม Bitcoin เขาก็อาจจะยื่นข้อเสนอให้ผลตอบแทน 9% ต่อปี เพื่อจูงใจปล่อยกู้ให้แก่เขา

หรือบางเจ้าอาจยื่นข้อเสนอให้ผลตอบแทนสูงถึง 18% ต่อปี หรือบางเจ้าอาจยื่นข้อเสนอผลตอบแทนให้แค่เพียง 4% ต่อปี

ซึ่งไม่ว่าจะกี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่ สิ่งที่ Michael Saylor ต้องการจะสื่อก็คือ Bitcoin มันทำหน้าที่เป็น Capital ได้นั่นเอง

ดังนั้น ในเมื่อตีความได้ว่า สิ่งที่เขาต้องการจะลงทุนก็คือ การลงทุนใน Capital คำถามต่อมาก็คือ เขาจะลงทุนใน Capital ใดกันล่ะ? ในเมื่อเขามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง

ซึ่งเขาเลือกที่จะลงทุนใน Bitcoin ที่เขามองว่ามันคือ Digital Capital เป็นสินทรัพย์ดิจิตอล ที่สามารถปล่อยกู้ให้กับใครก็ได้บนโลกใบนี้ ในขณะที่การลงทุนในที่ดินหรืออพาร์ทเม้นต์เม้นท์ นั้น กลับให้เช่าได้ในเฉพาะคนในประเทศนั้น ๆ เพียงอย่างเดียว แถมที่ดินกับอพาร์ทเม้นต์ก็มีเป็นตัวเลือกเป็นพันเป็นหมื่นแห่ง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ทำเลเหล่านั้นมันดีไหม มันจะมีคนเช่าหรือไม่ แล้วจะได้ค่าเช่าคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการที่จะรู้ได้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการศึกษาไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง เพื่อให้รู้ว่า ทำเลใดเหมาะแก่การลงทุน

ซึ่งทาง Michael Saylor ก็บอกว่า ถ้าให้ Warren Buffett ที่มีอายุ 92 ปี แล้วให้มานั่งศึกษาหมกมุ่นอยู่กับ Bitcoin เพื่อเรียนรู้มันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 100 ชั่วโมง นั้นเขาคงไม่ทำมัน เช่นเดียวกัน Charlie Munger ที่มีอายุ 98 ปี แล้ว เขาก็คงไม่ใช้เวลากว่า 100 ชั่วโมง เพื่อเข้ามาศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องของ Bitcoin หรอก

ซึ่งทาง Michael Saylor เขาบอกว่า ถ้าหาก Waren Buffett ได้เข้ามาศึกษาในตัวของ Bitcoin เขาก็จะพบว่า Bitcoin มันคือ Digital Property มันคือรูปหนึ่งของ Digital Capital

หรือถ้าให้คิดง่าย ๆ เลยก็คือ การซื้อ Bitcoin มันก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของที่ดินออนไลน์ ที่สามารถปล่อยให้ผู้คนทั่วโลกเข้ามาเช่าได้ โดยไม่มีการจำกัดว่า จะต้องเป็นประเทศใดประเทสหนึ่ง มันเปิดกว้างทั่วโลก ดังนั้น Bitcoin มันจึงเป็น Property ที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินอื่น ๆ อย่างเช่น ที่ดิน อพาร์ทเม้นต์ ทองคำ หรือแม้แต่สกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก เหตุผลนั้นก็เป็นเพราะ มันอยู่ในรูปของดิจิตอล สามารถส่งมูลค่าได้ด้วยความเร็วแสง ไม่สามารถถูกทำลายได้ ไม่แตกหักเสียหาย ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งคุณสามารถสบายใจได้ว่า เมื่อคุณตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า มันจะไม่แตกหักเหมือนกับบ้านเรือนที่ถูกพายุเฮิริเคนถล่มใส่ หรือคุณไม่ต้องกังวลว่าจู่ ๆ ที่ดินหรืออพาร์ทเม้นต์ของคุณถูกยึดหรือถูกควบคุมโดยทางรัฐบาลหรือใครหน้าไหน

หรือคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภัยแล้ง ว่าที่ดินของคุณนั้นจะประสบปัญหาดังกล่าวหรือไม่ เมื่อไหร่ ผลผลิตที่ได้ในภาวะภัยแล้งนั้น จะตกต่ำมากเพียงใด

แต่เขาก็เข้าใจได้ว่าทาง Warren Buffett นั้นเติบโตมากับทรัพย์สินที่จับต้องได้ซะมากกว่า และเขาก็เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาเสียเวลากับทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้อย่าง Bitcoin

ซึ่งถ้าตัวของเขาเองถ้าเขามีอายุเข้าวัยเลข 9 จะ 92 หรือ 98 ปี ก็ตาม หากมีคนมาบอกกล่าวเกี่ยวกับเรื่องของ Bitcoin เขาก็คงที่จะกลัว และไม่แน่ใจ ไม่กล้าที่จะเสี่ยง เช่นกัน เพราะพวกเขาเติบโตมาในยุคก่อน ’90 ซึ่งพอมาถึงยุค 2000s ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอย่างมากมาย นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่า เขาจะต้องตามเทคโนโลยีเหล่านั้นทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา

Resources