Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Uncategorized

1 เคล็ดลับในการปลดล็อคความมั่งคั่งในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ในบทความนี้ แอดมินได้มีโอกาสดูวีดีโอของ Dan Lok ที่ปรึกษานักธุรกิจร้อยล้าน ที่ได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับเจ้าร้องร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งที่เขารู้จักเป็นการส่วนตัว โดยเป็นร้านอาหารจีนร้านเล็ก ๆ ที่ปกติแล้วจะมีลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ย 6-10 คนต่อชั่วโมง แต่เมื่อเจ้าของร้านได้ลองเปิดใจ ลงทะเบียนในแอพอาหารหนึ่ง ก็พบว่า มีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาชั่วโมงละ 20-30 คน หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นทันที 2-3 เท่าจากปกติ โดยที่แทบไม่ต้องลงทุนขยายสาขาหรือทำการตลาดเพิ่มเติมเลยด้วยซ้ำไป

Dan Lok จึงได้หลักคิดที่น่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจคนอื่น ๆ ที่อาจจะกำลังเจอทางตันว่า จะทำอย่างไรจึงจะเพิ่มยอดขายให้ได้มากกว่าเดิม โดยที่แทบจะไม่ต้องลงเงินอะไรมากมาย เพราะหากเป็นร้านค้าปกติทั่วไป การที่จะขยายสาขาให้ได้เยอะ ๆ อย่าง McDonald หรือ Starbucks นั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่นั่นก็ทำให้ทั้ง McDonald และ Starbucks นั้นเป็นธุรกิจที่มั่งคั่ง เพราะเวลาที่มีสินค้าใหม่ ๆ ที่ต้องการโปรโมทหรืออยากทดลองให้ลูกค้าได้ชิม พวกเขาก็จะกระจายสินค้าตัวทดลองหรือกระจายข่าวสารไปยังสาขาต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก ได้แทบจะในทันที และสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก

และนี่ก็คือ 1 เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้มั่งคั่งก็คือ “Distribution” ที่หมายถึง “การแพร่กระจาย” ซึ่งหาก McDonald หรือ Starbucks มีเพียง 10 สาขา โดยสมมติว่า มีคนเข้าเฉลี่ย 1,000 คนต่อวันต่อสาขา นั่นแสดงว่า สามารถเข้าถึงลูกค้าได้วันละ 10,000 คน

แต่ในขณะที่ ณ ปัจจุบัน McDonald มีสาขามากกว่า 37,000 สาขา และ Starbucks มีสาขามากกว่า 28,000 สาขา

หากนำตัวเลขสมมติด้านบนมาคำนวณคร่าว ๆ นั่นก็แสดงให้เห็นว่า แบรนด์ที่มั่งคั่งเหล่านี้ สามารถเข้าถึงลูกค้าต่อวันได้หลายล้านคนต่อวันเลยทีเดียว

แต่ทีนี้ ถ้าเราเป็นเพียงธุรกิจเล็ก ๆ ล่ะ จะทำยังไงได้บ้าง? เพราะถ้าจะให้ไปไล่เปิดร้านสาขาใหม่เยอะขนาดนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะนอกจากจะไม่มีเงินทุนเยอะขนาดนั้นแล้ว ยังไม่มีใครคิดจะให้กู้เงินเยอะขนาดนั้นอย่างแน่นอน

แต่ในขณะที่เจ้าของร้านอาหารจีนเล็ก ๆ ที่ Dan Lok ได้คุยด้วยนั้น เขาเลือกที่จะลงทะเบียนร้านเข้ากับแอพลิเคชั่นอาหารเจ้าหนึ่งที่ชื่อ Uber Eats หรือหาเป็นแอพพลิเคชั่นที่เราคุ้นหูส่วนใหญ่ก็อย่างเช่น LINE Man หรือไม่ก็ Wongnai ที่ข้อดีของแอพฯ หรือแพลตฟอร์มเหล่านี้ ก็คือ พวกเขามีผู้ใช้งานอยู่บนแอพนี้นับล้านคน ที่พร้อมจะสั่งอาหารหรือเปิดเพื่อจะแวะไปกินที่ร้านเหล่านั้น ซึ่งเพียงแค่ร้านค้าเข้ามาลงทะเบียน ก็สามารถเข้าถึงคนนับล้านคนได้ในพริบตา และนั่นก็ไม่แปลกนัก หากจะมีลูกค้าสักสิบคน ร้อยคน จากนับล้านคน เข้ามาอุดหนุนร้านคุณบ้าง หรือในกรณีที่ร้านคุณมีรีวิวดี ก็อาจจะได้ขึ้นอันดับต้น ๆ ในแอพฯ ซึ่งก็อาจจะเพิ่มลูกค้าของคุณได้นับพันนับหมื่นคนเลยทีเดียว

ซึ่งจะว่าไปแล้ว จำนวนในการเข้าถึงคนบนโลกออนไลน์ในยุคปัจจุบันนี้นั้น จะนับว่าเป็นสกุลเงินใหม่ก็ไม่ผิดแปลกไปนัก เพราะหากเราสังเกตจาก Influencer หรือผู้ที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์นั้น สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะเจ้าของแบรนด์และเจ้าของสินค้าต่าง ๆ พร้อมที่จะควักเงินในกระเป๋าเพื่อที่จะต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามของ Influencer เหล่านั้นนั่นเอง

ทีนี้ เราลองเอาเคล็ดลับตรงนี้ นำมาปรับใช้กับในโลกออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่เพียงร้านอาหารกันดูบ้าง

ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของ Youtube ก็แล้วกัน ที่ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร คุณก็สามารถใช้ Youtube เป็นหนึ่งในช่องทางที่ใช้ช่วยให้ธุรกิจคุณมั่งคั่งได้ หรือแม้แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีธุรกิจ คนที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคุณมีวิธีทำด้วยกัน 2 วิธีก็คือ

วิธีที่ 1 – ให้คุณสร้าง Distribution หรือการแพร่กระจายด้วยตัวคุณเอง

แน่นอนว่า หากพูดถึง Youtube ที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะเป็นผู้เสพย์หรือผู้สร้าง หรือเป็นทั้งผู้เสพย์และผู้สร้าง ก็ได้เช่นกัน

แต่หากคุณเป็นเพียงผู้เสพย์ ที่เฝ้ารับชมวีดีโอคนอื่นเพียงอย่างเดียว แล้วใครจะรู้จักคุณ แต่ในขณะที่เมื่อคุณเริ่มเสพย์มาระดับหนึ่งแล้ว ต้องการผันตัวเองไปเป็นผู้สร้าง ทีนี้ เกมจะเปลี่ยนไปในทันที จากคนที่ไม่มีรู้จักคุณบนโลกออนไลน์มาก่อน คุณก็จะเริ่มมีตัวตนขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งในช่วงแรก ผู้คนอาจเห็นวีดีโอของคุณเพียงหยิบมือ อาจจะแค่หลักหน่วย หลักสิบหรือหลักร้อย

แต่เมื่อคุณทำวีดีโอที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดผู้คนได้มากพอ อาจจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักพัน หมื่น หลักแสนหรือหลักล้านคน ที่สามารถเห็นคุณ เห็นสินค้าคุณ เห็นธุรกิจคุณ และนี่ก็คือการที่คุณสร้าง Distribution หรือการแพร่กระจายด้วยตัวคุณเอง

หรือคุณอาจจะใช้

วิธีที่ 2 – อาศัย Distribution ของผู้อื่น

ในภาษาของเหล่า Youtuber หลายคนอาจเคยได้ยินคำศัพท์ Collaboration ที่หมายถึง การช่วยเหลือหรือการร่วมมือกันระหว่างแต่ละช่องของ Youtuber ที่ร่วมมือกัน ซึ่งแม้ว่าในตอนแรกคุณจะยังไม่ดัง ไม่ค่อยมีใครรู้จักช่องคุณสักเท่าไหร่นัก

คุณสามารถติดต่อไปยังช่องที่ใหญ่กว่าคุณได้ เพื่อคุยและทำคลิปร่วมกัน ซึ่งหลายคนอาจจะมีคำถามขึ้นมาว่า “แล้วช่องที่ใหญ่กว่าเรา เขาจะยอมมาทำกับช่องเล็ก ๆ อย่างเราหรือ?” ถ้าคุณเริ่มต้นตั้งคำถามแบบนี้ก็เป็นอันจบข่าว เพราะในหัวของคุณก็จะคิดคำตอบสารพัดที่ช่องคุณมิอาจจะ Collab กับช่องใหญ่ได้

จะดีกว่าไหมถ้าตั้งคำถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไงบ้าง เพื่อให้ช่องใหญ่เหล่านั้นยอมมา Collab กับเราบ้าง?” ซึ่งเมื่อคุณเปลี่ยนคำถาม คำตอบคุณก็จะเปลี่ยนไป ทีนี้ คุณก็จะเริ่มเสาะหาว่า มีวิธีการใดบ้างที่เคยใช้แล้วช่องใหญ่ยอมรับและร่วมกับคลิป Collab กับช่องคุณ ซึ่งหลักคิดง่าย ๆ ก็คือ ตัวคุณเองนั้น มีความสามารถอะไรบ้างที่ช่องใหญ่เขาไม่มีและเราสามารถนำทักษะที่เรามีไปช่วยเหลือเขาได้ เป็นต้น

และเมื่อพวกเขายอมรับการ Collaboration กับคุณแล้ว ทีนี้ ฐานแฟนคลับของพวกเขาเหล่านั้น หากเห็นแล้วว่าเนื้อหาในช่องของคุณน่าสนใจ พวกเขาก็จะเริ่มเข้ามาติดตามช่องของคุณ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ในช่องของคุณนั้น มีเนื้อหาตรงกับความสนใจของช่องใหญ่อยู่แล้วหรือไม่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณมีวีดีโอเจ๋ง ๆ ที่เคยทำเอาไว้มากพอหรือไม่และจะมีวีดีโอเจ๋ง ๆ ออกมาในอนาคตอีกหรือไม่ นั่นก็เป็นเรื่องของคุณแล้วว่า ของที่คุณมีอยู่นั้นเจ๋งแค่ไหน

และนี่ก็คือ 1 เคล็ดลับในการทำธุรกิจให้มั่งคั่งด้วยการ แพร่กระจาย หรือ Distribution ที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก ลองคำนวณตัวเลขง่าย ๆ ว่า สมมติว่า คุณสามารถเปลี่ยนคนดูเป็นลูกค้าได้ 1% หากคุณสามารถเข้าถึงผู้คนได้เพียง 100 คน คุณก็มีโอกาสปิดการขายได้เพียง 1 คน แต่หากคุณสามารถเข้าถึงผู้คนได้ 1 ล้านคน นั่นก็แสดงว่า คุณมีโอกาสปิดการขายได้สูงถึง 10,000 คนเลยทีเดียว

จำเอาไว้ว่า โอกาสมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เงินลอยอยู่เต็มอากาศไปหมด มันเหลือแต่เพียงว่า ใครสามารถมองเห็นโอกาสและคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ก็เท่านั้นเอง

Resource